แกงมัสร่าเนื้อ อาหารข้ามวัฒนธรรมจากอินเดียสู่ล้านนา

แกงเครื่องแกงเนื้อ “มัสร่า” ของพี่น้องมุสลิมเชื้อสายอินเดีย–เบงกาลีในเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในรสชาติอาหารที่สะท้อนรากเหง้าวัฒนธรรมการกินของชุมชนมุสลิมในย่านเมืองล้านนา

ที่มาของ “มัสร่า”

คำว่า “มัสร่า” (Masra / Masara / Masala) น่าจะมาจากรากศัพท์เดียวกับ “มาซาลา” (Masala) ในภาษาฮินดี–อูรดู ที่หมายถึงเครื่องเทศผสมสำหรับแกง ในหมู่ชาวมุสลิมเชื้อสายอินเดียและเบงกาลีที่อพยพเข้ามาเชียงใหม่ราวร้อยปีก่อน นิยมใช้คำนี้เรียกแกงเนื้อที่ใช้เครื่องเทศเข้มข้น
#ส่วนผสมและลักษณะ

เนื้อวัวหรือแพะ เป็นหลักหรือเนื้อไก่ก็อร่อย

#เครื่องแกง (Masala) ประกอบด้วย หอมแดง กระเทียม ขิง ยี่หร่า ลูกผักชี อบเชย กานพลู กระวาน พริกแห้ง และขมิ้น

#วิธีทำ จะโขลกเครื่องเทศให้ละเอียด เคี่ยวกับน้ำมันหรือน้ำมันเนย (กี/นีอี) แล้วจึงใส่เนื้อลงไปตุ๋นช้า ๆ จนเปื่อยนุ่ม

รสชาติ เผ็ดร้อนจากพริกและเครื่องเทศ กลมกล่อมด้วยความหอมของเครื่องปรุง คล้ายแกงกะหรี่ แต่เข้มข้นและมันกว่าด้วยน้ำมันเครื่องเทศ
#ความเชื่อมโยงกับล้านนา
      “มัสร่า” ถูกนำมาเผยแพร่ในครอบครัวมุสลิมเชื้อสายอินเดียและเบงกาลี โดยเฉพาะในย่าน ช้างคลาน ช้างเผือก ของเชียงใหม่

     ในงานบุญ งานแต่งงาน หรือเมาลิด จะมักทำแกงนี้เลี้ยงแขก ถือเป็นอาหารเกียรติยศที่สะท้อน “ความอุดมสมบูรณ์และน้ำใจเจ้าภาพ”

      เมื่อผสมผสานกับวิถีล้านนา จึงเกิดการปรับรสให้เข้ากับท้องถิ่น เช่น ใช้น้ำมันพืชแทนกี หรือลดเครื่องเทศบางชนิด แต่ยังคงแก่นรสชาติเข้มข้น
“แกงเนื้อมัสร่า” ไม่ใช่เพียงอาหาร หากแต่เป็น ร่องรอยทางวัฒนธรรม ที่บอกเล่าเรื่องการอพยพ การตั้งรกราก และการผสมผสานของชุมชนมุสลิมเชื้อสายอินเดีย–เบงกาลีหรือกะหล่าในล้านนา

ใครอยากกินร้านอามีนก็มีนะ
#คำว่า “กะหล่า” กะลา มาจากการเรียกทับศัพท์จากคำว่า Kala (ภาษาบางกลุ่มหมายถึง “แขก” หรือ “คนจากอินเดีย”)
#ขอบคุณแกงเครื่องจากแม่ดองป้าเพรชไก่ทอดย่านช้างคลาน

ความคิดเห็น