มุสลิมและมัสยิดในกัมพูชา: ภาพรวมและความสำคัญ



 #มุสลิมและมัสยิดในกัมพูชา: ภาพรวมและความสำคัญ

มุสลิมในกัมพูชา ส่วนใหญ่เป็นชาวจาม ซึ่งมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ผูกพันกับดินแดนนี้มาช้านาน มัสยิดจึงเป็นศูนย์กลางสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมของชุมชนมุสลิมในกัมพูชา(Gemini)
**ปัจจุบันมีคนมุสลิมมลายูจามปาในกัมพูชาประมาณ 600,000 คน และอยู่ในเวียดนามประมาณ 100,000 คน คนที่หนีมาอยู่ในกัมพูชาถือว่าโชคดี เพราะกษัตริย์กัมพูชาถือเป็นประชากรของประเทศ ที่สำคัญคือพวกเขาก็มีบทบาทในการต่อต้านการรุกรานของฝรั่งเศสจนทำให้กัมพูชาได้รับเอกราชในปี ศ.ค. 1954 ด้วย
หลังจากได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสแล้ว กษัตริย์กัมพูชาก็เปลี่ยนชื่อมุสลิมจามปามาเป็นมุสลิมเขมร และให้สิทธิแก่คนมุสลิมสามารถใช้ชื่ออิสลามอย่างเป็นทางการได้ เช่น อุสมาน อับดุลเลาะ มูฮำหมัด มาเรียม เป็นต้น
กษัตริย์ฟื้นตำแหน่งผู้นำอิสลาม-ให้สิทธิต่างๆ
กษัตริย์สีหนุก็ได้แต่งตั้งให้มีผู้นำศาสนาอิสลามในประเทศกัมพูชาขึ้นมา หลังจากตำแหน่งนี้ได้หายไปประมาณ 25 ปี ในช่วงสงครามกลางเมืองกัมพูชา
การแต่งตั้งผู้นำศาสนาอิสลามในประเทศ ส่งผลให้การแต่งตั้งอิหม่ามประจำมัสยิดและครูสอนศาสนาตามชุมชนต่างๆในกัมพูชากลับคืนมาด้วย โดยนายกรัฐมนตรีให้อำนาจผู้นำศาสนาอิสลามกัมพูชาแต่งตั้งอิหม่ามประจำมัสยิดและครูสอนศาสนา
ในประเทศกัมพูชามี 25 จังหวัด มีหมู่บ้านมุสลิม 535 หมู่บ้าน และมีมัสยิด 535 แห่ง โดยอยู่ในกรุงพนมเปญ 14 แห่ง มีคนมุสลิมอยู่ทุกจังหวัด แต่ส่วนใหญ่อยู่ที่หมู่บ้านจามประมาณ 50%
รัฐมนตรี 6 คน ปลัดกระทรวง 12 คน






ปัจจุบันทางรัฐบาลให้ความสำคัญกับสังคมมุสลิมอย่างมาก เนื่องจากไม่เคยต่อต้านรัฐบาลและสนับสนุนรัฐบาลอย่างเต็มที่มาตลอด ไม่ทำผิดกฎหมายและสามารถทำงานร่วมกับคนอื่นๆในประเทศได้
ในกัมพูชามีคนมุสลิมเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 11 คน เป็นรัฐมนตรี 6 คน สมาชิกวุฒิสภา 2 คน ปลัดกระทรวง 12 คน ตำรวจระดับสูง 10 คน ทั้งที่ทั้งประเทศมีชาวพุทธ 90% และมีมุสลิมแค่ 5%เท่านั้น
อิหม่ามประจำมัสยิดไม่ได้รับเงินเดือนจากรัฐบาล แต่ชาวบ้านจะเก็บเงินมอบให้อิหม่ามและครูสอนศาสนา จะได้น้อยหรือมากขึ้นอยู่กับฐานะของประชาชนในหมู่บ้าน หากหมู่บ้านไหนมีฐานะดีก็จะเก็บเงินได้เยอะ หากในหมู่บ้านไหนฐานะไม่ดีก็เก็บเงินได้น้อย
เราทำงานกับประเทศมุสลิมต่างๆ ทั้งในภูมิภาคอาเซียน เช่น มาเลเซีย บรูไน และในตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบีย คูเวต กาตาร์ บาห์เรน โอมาน เป็นต้น เพื่อนำเงินบริจาคของประเทศเหล่านั้นมาใช้ในกิจกรรมศาสนาอิสลาม
ปัจจุบันทุกๆเดือนจะมีการสร้างมัสยิดใหม่ สร้างอาคารเรียนใหม่จำนวนมาก ทำให้คนมุสลิมมีโอกาสที่เรียนรู้ศาสนามากขึ้น ต่างกับสมัยก่อนที่คนกัมพูชามีโอกาสได้รับการศึกษาน้อยมาก เนื่องจากอยู่ในช่วงสงครามกลางเมือง




ขอบคุณอัลเลาะห์ที่ให้ทุกๆหมู่บ้านมุสลิมในกัมพูชามีโรงเรียนสอน
(**ประชาไท)


มัสยิด: ประตูสู่โลกแห่งศรัทธา
มัสยิดในกัมพูชามีหลากหลายรูปแบบ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างอิสลามและท้องถิ่น ทำให้มัสยิดแต่ละแห่งมีความโดดเด่นและมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
บทบาทของมัสยิด:
* ศูนย์กลางการนับถือศาสนา: เป็นสถานที่สำหรับการละหมาด, อ่านคัมภีร์กุรอาน และกิจกรรมทางศาสนาอื่น ๆ
* ศูนย์กลางชุมชน: เป็นสถานที่สำหรับพบปะสังสรรค์ของชาวมุสลิม ส่งเสริมความสามัคคีและการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
* สถานที่เรียนรู้: มีการจัดการเรียนการสอนศาสนาอิสลามให้กับเด็กและเยาวชน
* สัญลักษณ์ของวัฒนธรรม: สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมของกัมพูชา



ประวัติศาสตร์ของมุสลิมในกัมพูชา
ชุมชนมุสลิมในกัมพูชามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ผ่านการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมมาหลายยุคสมัย แต่ก็ยังคงรักษาอัตลักษณ์และความเชื่อของตนเองไว้ได้
ความท้าทายและอนาคต
ปัจจุบัน ชุมชนมุสลิมในกัมพูชากำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม การขาดแคลนทรัพยากร และการอนุรักษ์มัสยิดเก่าแก่ อย่างไรก็ตาม ชุมชนมุสลิมยังคงมีความหวังและมุ่งมั่นที่จะรักษาศาสนาและวัฒนธรรมของตนเองไว้

สรุป
มุสลิมและมัสยิดมีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์สังคมกัมพูชาให้มีความหลากหลายและน่าอยู่ การเรียนรู้เกี่ยวกับมุสลิมและมัสยิดในกัมพูชา จะช่วยให้เราเข้าใจและเคารพในความแตกต่างทางวัฒนธรรมและศาสนาได้ดียิ่งขึ้น(*Gemini)

ความคิดเห็น