เข็มพระปรมาภิไธย ชั้น ๒
คณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิด
ภาพจากกูลเกิ้ล
ระเบียบกระทรวงมหาดไทย
ว่าด้วยการสวมเสื้อครุยและประดับเข็มพระปรมาภิไธย
พ.ศ. ๒๕๔๘
โดยที่เป็นการสมควรเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการสวมเสื้อครุยและประดับเข็มพระปรมาภิไธย ของจุฬาราชมนตรี กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กรรมการอิสลามประจำจังหวัด และกรรมการอิสลามประจำมัสยิด ผู้มีสิทธิสวมเสื้อครุยและประดับเข็มพระปรมาภิไธยจึงสมควรวางระเบียบว่าด้วยการสวมเสื้อครุยและประดับเข็มพระปรมาภิไธย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ และมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ. ๒๕๔๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการสวมเสื้อครุยและประดับเข็มพระปรมาภิไธย พ.ศ. ๒๕๔๘”
ข้อ ๒[๑] ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามระเบียบนี้ และมีอำนาจวินิจฉัยตีความวินิจฉัยปัญหา กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามในระเบียบนี้
ข้อ ๔ ลักษณะเสื้อครุยและเข็มพระปรมาภิไธยตามระเบียบนี้ ให้ใช้เช่นเดียวกับที่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๔๘๘ และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ ๒) ลงวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๔๙๗ เรื่อง ระเบียบการสวมเสื้อครุยและประดับเข็มพระปรมาภิไธยตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการศาสนูปถัมภ์ฝ่ายอิสลาม พุทธศักราช ๒๔๘๘ กำหนดไว้ ดังนี้
(๑) ครุย มีลักษณะเป็นเสื้อคลุมเปิดอก
(๒) เข็มพระปรมาภิไธย มี ๒ ชั้น คือ
ชั้นที่ ๑ มีอักษรพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. ลงยาสีเหลืองเบื้องบนมีพระมหามงกุฎทองลงยาสีเหลืองและเขียว ภายในพระมหามงกุฎเหนืออักษร มีเลข ๙ ลงยาสีขาวประดับบนแพรแถบขนาดกว้าง ๔ เซนติเมตร สีแดงริมเขียวมีริ้วเหลืองริ้วน้ำเงินขนาดเล็กควบคั่นทั้งสองข้าง
ชั้นที่ ๒ มีลักษณะเช่นเดียวกับชั้นที่ ๑ แต่ไม่ลงยาและประดับบนแพรแถบขนาดกว้าง ๔ เซนติเมตร สีน้ำเงินริมเขียวมีริ้วเหลืองริ้วแดงขนาดเล็กควบคั่นทั้งสองข้าง
ข้อ ๕ ให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำเข็มพระปรมาภิไธยและมอบแก่ผู้มีสิทธิได้รับโดยให้ผู้มีสิทธิสวมเสื้อครุยจัดหาเสื้อครุยด้วยตนเอง
ข้อ ๖ ผู้มีสิทธิสวมเสื้อครุยและประดับเข็มพระปรมาภิไธย คือ
(๑) จุฬาราชมนตรี กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และกรรมการอิสลามประจำจังหวัดมีสิทธิสวมเสื้อครุยและประดับเข็มพระปรมาภิไธย ชั้นที่ ๑
(๒) กรรมการอิสลามประจำมัสยิด มีสิทธิสวมเสื้อครุยและประดับเข็มพระปรมาภิไธย ชั้นที่ ๒
ข้อ ๗ ผู้มีสิทธิสวมเสื้อครุยและประดับเข็มพระปรมาภิไธย ตามข้อ ๖ (๑) และ (๒) มีสิทธิสวมเสื้อครุยและประดับเข็มพระปรมาภิไธย ในขณะดำรงตำแหน่งจุฬาราชมนตรี กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กรรมการอิสลามประจำจังหวัด หรือกรรมการอิสลามประจำมัสยิด
หากผู้มีสิทธิประดับเข็มพระปรมาภิไธยพ้นจากตำแหน่งให้ส่งคืนเข็มพระปรมาภิไธย หรือชดเชยเป็นเงินตามวงเงินที่กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงมหาดไทย
ข้อ ๘ การสวมเสื้อครุยและประดับเข็มพระปรมาภิไธย
(๑) การสวมเสื้อครุยให้สวมทับเครื่องแต่งกายที่สุภาพ ประดับเข็มพระปรมาภิไธย ณ อกเบื้องซ้ายและจะสวมเสื้อครุยได้ในโอกาสต่อไปนี้
ก. งานสำคัญทางศาสนาอิสลาม คือ วันเมาลิดินนบีมุฮัมมัด ซ.ล. วันอีดิ้ลฟิฏร์ และวันอีดิ้ลอัฎฮา
ข. งานพระราชพิธี หรือรัฐพิธีที่มีหมายกำหนดการ
ค. งานที่ทางราชการเชื้อเชิญ โดยกำหนดให้สวมเสื้อครุย
(๒) การประดับเข็มพระปรมาภิไธยนั้น อาจประดับกับเครื่องแต่งกายที่สุภาพเฉพาะในโอกาสอันเป็นมงคลต่อไปนี้
ก. วันทำพิธีทางศาสนาอิสลาม คือ วันขึ้นปีใหม่ วันนิสฟูชะอ์บาน และวันเมียะราจ
ข. การไปในงานพิธีที่บุคคลจัดให้มีขึ้น
ข้อ ๙ ให้กระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่กำกับ ดูแล และให้คำแนะนำในการปฏิบัติตามระเบียบนี้แก่คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด คณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิด
ประกาศ ณ วันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘
โภคิน พลกุล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ที่มา http://law.longdo.com/law/88/sub12064
มุสลิมเชียงใหม่ดอทเน็ต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
โปรดใช้วิจารณญานในการแสดงความคิดเห็น