ท่านอบูฮูรอยเราะฮฺ (Abu Hurayrah) {รอดิยัลลอฮุอันฮุ} ถือเป็นบุคคลสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์อิสลาม โดยเฉพาะในฐานะผู้รายงานหะดีษ (คำพูดและการปฏิบัติของท่านนบีมุฮัมมัด) มากที่สุด ท่านมีบทบาทสำคัญหลังเข้ารับอิสลามและมีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ
#การเข้ารับอิสลาม
ชื่อเดิม: ก่อนเข้ารับอิสลาม ท่านมีชื่อว่า อับดุ ชัมซฺ (หมายถึงบ่าวของดวงอาทิตย์) หรือตามบางรายงานคือ บิรฺรฺ
#ชื่อหลังเข้ารับอิสลาม: ท่านนบีมุฮัมมัด {ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม} ได้เปลี่ยนชื่อให้ท่านเป็น อับดุรเราะห์มาน อิบนิ ศ็อคริ อัดเดาซีย์ (บ่าวของผู้ทรงเมตตา)
#การเข้ารับอิสลาม: ท่านเข้ารับอิสลามในปีที่ 7 แห่งฮิจเราะห์ (การอพยพจากมักกะฮ์ไปยังมะดีนะฮ์) โดยเข้ารับอิสลามผ่านทางท่าน อัฏฏุฟัยลฺ อิบนิ อัมรฺ อัดเดาซีย์ ซึ่งเป็นผู้นำเผ่าของท่าน คือเผ่าบะนูเดาซฺ
#ฉายา (กุนยะฮ์): ท่านเป็นที่รู้จักกันในฉายา อบูฮูรอยเราะฮฺ (พ่อของแมวตัวเมีย) ซึ่งมีที่มาจากความรักที่ท่านมีต่อลูกแมวตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งที่ท่านเคยพาติดตัวไปด้วยเสมอเมื่อยังเด็ก ทำให้ท่านนบี {ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม} เรียกท่านด้วยฉายานี้ และท่านก็ชอบฉายานี้มาก
ชีวิตหลังเข้ารับอิสลามและคุณสมบัติของท่าน
หลังเข้ารับอิสลาม ท่านอบูฮูรอยเราะฮฺได้อพยพไปยังนครมะดีนะฮ์ และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่เคียงข้างท่านนบีมุฮัมมัด {ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม} ท่านเป็นหนึ่งใน อะฮ์ลุศศุฟฟะฮ์ (กลุ่มผู้ยากจนที่พักอยู่ในมัสยิดของท่านนบี) ซึ่งคุณสมบัติเด่นของท่านคือ:
1. ความรักในการแสวงหาความรู้และความทรงจำอันเป็นเลิศ
การอุทิศตนเพื่อความรู้: ท่านอบูฮูรอยเราะฮฺใช้ชีวิตเกือบสามปีสุดท้ายของท่านนบีในการอยู่เคียงข้างท่านนบีอย่างใกล้ชิด ไม่ละทิ้งการเข้าร่วมวงสนทนา และ การฟังคำสอน จากท่านนบีเลย เนื่องจากท่านไม่มีทรัพย์สินหรือภาระทางโลกมากนัก ต่างจากเศาะฮาบะฮ์ (สหาย) ท่านอื่น ๆ ที่ต้องทำมาหากิน
#ผู้รายงานหะดีษมากที่สุด: ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงเป็นผู้ที่ รายงานหะดีษ จากท่านนบีมากที่สุดถึง 5,374 บท เนื่องจากท่านได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่ในการจดจำคำพูด การกระทำ และการรับรองของท่านนบี
#ปาฏิหาริย์แห่งความทรงจำ: มีรายงานว่าท่านเคยขอดุอาอ์ (วิงวอน) ต่ออัลลอฮฺให้ประทาน ความรู้ที่ไม่ถูกลืม และท่านนบี {ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม} ได้ประทานพรให้ท่านด้วยการลูบที่หน้าอกของท่าน หลังจากนั้นท่านก็ไม่เคยลืมสิ่งที่ได้ยินจากท่านนบีอีกเลย
2. ความสมถะและการอุทิศตน
การดำรงชีพอย่างเรียบง่าย: ท่านเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างสมถะและยากจนในฐานะสมาชิกอะฮ์ลุศศุฟฟะฮ์ เพื่อให้มีเวลาว่างเต็มที่ในการแสวงหาความรู้และอยู่รับใช้ท่านนบี
ความรักต่อมารดา: ท่านแสดงความกตัญญูต่อมารดาอย่างสูง โดยเฉพาะเรื่องการเข้ารับอิสลามของมารดา ท่านได้ขอดุอาอ์ให้มารดาของท่านเข้ารับอิสลามอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งมารดาของท่านได้ยอมรับอิสลามในที่สุด
3. การปฏิบัติตามคำสอนอย่างเคร่งครัด
#ความยำเกรง: ท่านเป็นที่ทราบกันในเรื่องของความยำเกรงและความเคร่งครัดในการปฏิบัติศาสนกิจ ท่านจะละหมาดตะฮัจญุด (ละหมาดกลางคืน) เกือบทุกคืน และถือศีลอดเป็นประจำ
#การเชิญชวนผู้อื่น: ท่านมีความกระตือรือร้นในการเชิญชวนผู้คนให้แสวงหาความรู้ทางศาสนา โดยเคยกล่าวเชิญชวนผู้คนในตลาดมะดีนะฮ์ให้รีบไปรับ "มรดกของท่านร่อซูล" (ซึ่งท่านหมายถึงความรู้และคำสอนในมัสยิด) แทนที่จะง่วนอยู่กับการซื้อขายทางโลก
ท่านอบูฮูรอยเราะฮฺ {รอดิยัลลอฮุอันฮุ} เสียชีวิตในปีที่ 59 แห่งฮิจเราะห์ ในวัย 78 ปี ณ อัลมะดีนะฮ์ และถูกฝังที่สุสาน อัลบะเกียอฺ
เรื่องราวของท่านเป็นแบบอย่างที่ชัดเจนของผู้ที่ให้ความสำคัญกับการแสวงหาความรู้ทางศาสนาเหนือสิ่งอื่นใด จนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้ทรงความรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอิสลาม
ชุมพล ศรีสมบัติ รวบรวมนำเสนอ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
โปรดใช้วิจารณญานในการแสดงความคิดเห็น