สาย อิสมาอีลียะห์ (Ismāʿīliyyah) มีระบบการสืบทอดอิหม่ามเฉพาะตนที่แตกต่างจากชีอะห์สายอื่น โดยเฉพาะชีอะห์อิหม่ามสิบสอง

สาย อิสมาอีลียะห์ (Ismāʿīliyyah) มีระบบการสืบทอดอิหม่ามเฉพาะตนที่แตกต่างจากชีอะห์สายอื่น โดยเฉพาะชีอะห์อิหม่ามสิบสอง และมี ความเกี่ยวข้องโดยตรงกับราชวงศ์ฟาฏิมียะห์ (al-Dawlah al-Fāṭimiyyah) ที่เคยปกครองอียิปต์และแอฟริกาเหนือในศตวรรษที่ 10–12

🧭 สายการสืบทอดอิหม่ามของอิสมาอีลียะห์

อิสมาอีลียะห์มีแนวทางนับสายอิหม่ามต่อจากอิหม่ามญะอ์ฟัร อัซศอดิก (อิหม่ามที่ 6 ของชีอะห์โดยรวม) ดังนี้:ุ

🔹 1. อิหม่ามญะอ์ฟัร อัซศอดิก (Jaʿfar al-Ṣādiq, เสียชีวิตปี ฮ.ศ.148/ค.ศ.765)

ชีอะห์อิหม่ามสิบสอง เชื่อว่าท่านแต่งตั้งบุตรชายชื่อ มูซา อัลกาซิม เป็นอิหม่ามที่ 7

แต่ อิสมาอีลียะห์ เชื่อว่าอิหม่ามญะอ์ฟัรได้แต่งตั้งบุตรชายคนโตชื่อ อิสมาอีล บินญะอ์ฟัร เุป็นอิหม่ามที่แท้จริง แม้ว่าอิสมาอีลจะเสียชีวิตก่อนพ่อก็ตาม

📜 สายอิหม่ามสำคัญของอิสมาอีลียะห์ (ช่วงแรก)

1. อิมามอาลี (อ.ล.)
2. อิมามฮะซัน
3. อิมามฮุเซน
4. อิมามอะลี ซัยนุลอาบิดีน
5. อิมามมุฮัมมัด อัลบากิร
6. อิมามญะอ์ฟัร อัซศอดิก
7. อิมามอิสมาอีล บินญะอ์ฟัร (ข้อขัดแย้งเริ่มที่นี่)
8. มุฮัมมัด บิน อิสมาอีล – บางกลุ่มถือว่าเป็น อิหม่ามเร้นกาย (Hidden Imam)
9. หลังจากนี้สายอิหม่ามแตกออกเป็นกลุ่มย่อย เช่น:
นีซารียะห์ (Nizari)
มุสฏะอ์ลียะห์ (Mustaʿli)

🔸 ราชวงศ์ฟาฏิมียะห์ (Fatimid Caliphate)
       ก่อตั้งโดย อิหม่ามอุบัยด์ อัลลอฮฺ อัลมะฮ์ดี (Ubayd Allāh al-Mahdī), ปี ค.ศ.909 (ฮ.ศ.297)

อ้างตนเป็นอิหม่ามสายตรงจากอิสมาอีล บินญะอ์ฟัร
      สถาปนาราชวงศ์ชีอะห์ในแอฟริกาเหนือ และต่อมาปกครอง อียิปต์ โดยตั้งเมืองหลวงใหม่ชื่อ อัลกอฮิเราะห์ (กรุงไคโร)
      ตั้ง อัลอัซฮัร เป็นศูนย์กลางความรู้ของชีอะห์อิสมาอีลียะห์ในเวลานั้น (ภายหลังถูกเปลี่ยนทิศทางโดยอัยยุบียะห์)

ราชวงศ์ฟาฏิมียะห์นับถืออิหม่ามเป็นทั้ง ผู้นำทางศาสนาและการเมือง (อิหม่าม-คอลีฟะห์)

🌿 🏛️ ความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ฟาฏิมียะห์

    เมื่ออิหม่าม อัลมุสฏันศิร บิลลาฮ์ (Al-Mustanṣir Billāh) เสียชีวิตในปี ค.ศ.1094 เกิดการแยกสายสำคัญคือ:

1. นีซารียะห์ (Nizari Isma'ilis)
สนับสนุน นีซาร บิน มุสฏันศิร
สายนี้นำไปสู่กลุ่ม อัสสะสีน (Assassins) แห่งป้อม อัลอัมมูต (Alamut)
      ปัจจุบันคือสายของ อาคขอน (Aga Khan) ผู้นำอิหม่ามในยุคปัจจุบัน

2. มุสฏะอ์ลียะห์ (Mustaʿli Isma'ilis)
สนับสนุน อัลมุสฏะอ์ลี น้องของนีซาร
ปัจจุบันมีอยู่ในอินเดีย-ปากีสถาน เช่น กลุ่ม โบฮ์รา (Bohra)
✳️ สรุป

หัวข้อ รายละเอียด
จุดเริ่มต้น อิหม่ามญะอ์ฟัร อัซศอดิก → อิสมาอีล บินญะอ์ฟัร → มุฮัมมัด บิน อิสมาอีล
ความเชื่อหลัก อิหม่ามเป็นผู้นำศาสนา-โลก และมี ญะอฺฟัรญะญ์ (ความรู้เร้นลับ)
ความเกี่ยวข้องกับรัฐ สถาปนา ราชวงศ์ฟาฏิมียะห์ (ค.ศ.909–1171) ปกครองอียิปต์ แอฟริกาเหนือ
การแตกสาย หลังปี ค.ศ.1094 แยกเป็น นีซารียะห์ และ มุสฏะอ์ลียะห์
ผู้นำปัจจุบัน นีซารียะห์ = อาคขอน (Aga Khan IV)
แหล่งกระจาย อินเดีย ปากีสถาน ซีเรีย ยูกันดา แคนาดา เคนยา ฯลฯ

กลุ่ม “โบฮ์รา” (Bohra) หรือที่ในไทยเรียกกันว่า “แขกโมลา” โดยเฉพาะในแถบภาคใต้และมาเลเซีย มีต้นกำเนิดและสายสืบทอดมาจาก ชีอะห์อิสมาอีลียะห์ โดยเฉพาะกลุ่มย่อยที่เรียกว่า:

✅ มุสฏะอ์ลียะห์ (Mustaʿlī Ismāʿīlī)

🔷 สรุปภาพรวม:
ชื่อกลุ่ม โบฮ์รา (Bohra) หรือ แขกโมลา
สังกัด ชีอะห์ อิสมาอีลียะห์ สายมุสฏะอ์ลียะห์
ถิ่นฐานเดิม แคว้นคุชราต อินเดีย
ภาษาที่ใช้ กุจราตี – อาหรับ – อูรดู
ผู้นำสูงสุด เรียกว่า “ดาอี อัลมุฏลัก” (Dāʿī al-Muṭlaq) – ผู้นำศาสนาแทนอิหม่าม
ปรากฏตัวในไทย มีในภาคใต้ เช่น สงขลา ปัตตานี นราธิวาส (นิยมเรียกว่า “แขกโมลา”)

🔶 ที่มาและสายการสืบทอด

     หลังการแตกสายของชีอะห์อิสมาอีลียะห์ในยุคฟาฏิมียะห์ ปี ค.ศ.1094:
     สายมุสฏะอ์ลียะห์ ยอมรับว่าอิหม่ามที่ถูกต้องคือ อัลมุสฏะอ์ลี บิลลาฮ์ บุตรอีกคนของอิหม่ามอัลมุสฏันศิร บิลลาฮ์
      เมื่อลูกของมุสฏะอ์ลี (อัลอามีร์) เสียชีวิตโดยไม่มีทายาทที่สามารถเป็นอิหม่ามได้ สายนี้จึงแต่งตั้งผู้แทนอิหม่าม (ไม่ใช่อิหม่ามโดยสายเลือด) เรียกว่า:

🔸 ดาอี อัลมุฏลัก = ผู้นำศาสนาและจิตวิญญาณในนามของอิหม่ามเร้นกาย

🔷 สายโบฮ์ราแบ่งออกเป็นหลายกลุ่มย่อย เช่น:

กลุ่ม รายละเอียด

ดาวูดี โบฮ์รา (Dāʾūdī Bohra) กลุ่มใหญ่ที่สุด มีผู้นำประจำในอินเดีย ปัจจุบันคือ Syedna Mufaddal Saifuddin
สุลัยมานี โบฮ์รา (Sulaymānī Bohra) ปรากฏในเยเมนเป็นหลัก
อาลาวี โบฮ์รา (Alawi Bohra) กลุ่มย่อยอีกสายหนึ่งในอินเดีย

กลุ่มโบฮ์ราในไทยส่วนใหญ่เป็น ดาวูดีโบฮ์รา (Dawoodi Bohra)

🕌 วัฒนธรรมศาสนาและเอกลักษณ์

โบฮ์ราเคร่งครัดในเรื่อง พิธีกรรมและความสะอาด
แต่งกายเฉพาะ:
-ชายใส่เสื้อขาวยาว (jubbah) หมวกทรงกลมขาวลายทอง
-หญิงคลุมผ้าลายลูกไม้เรียกว่า “rida”

มีกฎหมายศาสนาและการปกครองชุมชนภายในของตนเอง

ใช้ระบบ “วะกัฟ” สนับสนุนกิจกรรมศาสนาและสังคม
มักประกอบอาชีพค้าขาย และมีเครือข่ายข้ามชาติที่เข้มแข็ง

🧭 แขกโมลาในไทย คือใคร?

“แขกโมลา” เป็นคำเรียกชาวโบฮ์ราในภาคใต้ของไทย เช่น สงขลา ปัตตานี นราธิวาส

คำว่า "โมลา" อาจมาจาก มะว์ลา (mawlā) ที่หมายถึงผู้นำ/ผู้รู้ทางศาสนาในภาษาอาหรับ

ส่วนใหญ่สืบเชื้อสายมาจากพ่อค้าคุชราตที่เดินทางมาแถบคาบสมุทรมลายูเมื่อหลายร้อยปีก่อน

✳️ สรุปแบบสั้นที่สุด:

แขกโมลาในอินเดียและไทย คือกลุ่มชีอะห์สายอิสมาอีลียะห์ สาขามุสฏะอ์ลียะห์ กลุ่มดาวูดีโบฮ์รา
มีระบบผู้นำเฉพาะตน ไม่ใช่อิหม่ามสายเลือด แต่เป็นผู้นำศาสนาแทนที่อิหม่ามที่เร้นกาย
มีวัฒนธรรมเฉพาะที่แตกต่างจากชีอะห์อิหม่ามสิบสอง และมีชุมชนที่เข้มแข็งทั่วโลก

กลุ่ม โบฮ์รา (Bohra) หรือที่รู้จักในไทยว่า แขกโมลา ในด้านต่าง ๆ:

🏛️ 1. บทบาทของ "ดาอี อัลมุฏลัก" (Dāʿī al-Muṭlaq)

ในกลุ่มโบฮ์รา ผู้นำสูงสุดทางศาสนาไม่ใช่อิหม่ามโดยสายเลือดเหมือนชีอะห์สายอื่น แต่เป็นผู้แทนของอิหม่ามเร้นกาย (มะฮ์ดี) ซึ่งถูกเรียกว่า:

"ดาอี อัลมุฏลัก" = ผู้นำศาสนาเต็มรูปแบบ มีอำนาจในเชิงศาสนาและองค์กร

มีหน้าที่ สั่งสอนความรู้ลับ (บาฏิน) ของอัลกุรอานและหลักศรัทธา

มีโครงสร้างบริหารเครือข่ายระดับโลกภายใต้ “ดาอ์วะฮฺ” (องค์กรเผยแผ่)

ตัวอย่าง:

ผู้นำปัจจุบันของ ดาวูดีโบฮ์รา คือ
Sayyidna Mufaddal Saifuddin – ดาอีคนที่ 53
มีสำนักงานใหญ่ใน มุมไบ ประเทศอินเดีย

🌐 2. เครือข่ายเศรษฐกิจและสังคมของโบฮ์รา

      ชุมชนโบฮ์รามีชื่อเสียงด้านความซื่อสัตย์ในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะ การค้าระหว่างประเทศ

-สนับสนุนกันในรูปแบบของ สหกรณ์ มูลนิธิ วะกัฟ และการเงินที่สอดคล้องกับหลักศาสนา

-พวกเขาเน้นเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียงแบบชุมชน” เช่น โครงการความมั่นคงทางอาหารและที่อยู่อาศัย

> 🔹 ตัวอย่างที่น่าสนใจ:
โบฮ์ราในหลายประเทศปลูกผักกินเองในครัวเรือน รวมถึงมี “ตลาดไร้ขยะ” เพื่อสนับสนุนสิ่งแวดล้อม

🌏 3. เครือข่ายโบฮ์ราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

มีอยู่ใน:
-มาเลเซีย: กลุ่มดาอีโบฮ์ราดำเนินศูนย์ศาสนาในกัวลาลัมเปอร์ และปีนัง

-สิงคโปร์: มีมัสยิดเฉพาะกลุ่ม และศูนย์เผยแผ่

-ไทย: พบในสงขลา ปัตตานี หาดใหญ่ (บางชุมชนมีมัสยิดเล็กของตนเอง)
จุดเด่นในไทย:
สืบสายจากพ่อค้าคุชราตที่มาในสมัยสุลต่านมลายู

-มีการแต่งกายเฉพาะในงานเทศกาลศาสนา เช่น วันอาชูรอ, วันเกิดอิหม่าม, หรือ มะวาลิด

🔍 4. ความสัมพันธ์กับชีอะห์อื่น

ประเด็น ความสัมพันธ์
กับชีอะห์อิหม่ามสิบสอง มีความต่างด้านความเชื่อในอิหม่ามและวิธีตีความศาสนา แต่เคารพกันในระดับหนึ่ง
กับอิสมาอีลียะห์นีซารี (Aga Khan) มีจุดร่วมทางสายอิหม่ามต้น แต่แยกแนวทางและโครงสร้างการนำต่างกันอย่างชัดเจน
กับซุนนี มักอยู่ร่วมกันได้ดีในพื้นที่ปนเป – โดยเฉพาะในอินเดีย มาเลเซีย และไทย

📌 สรุปแบบเข้าใจง่าย:

> แขกโมลา หรือ โบฮ์รา คือชีอะห์สายอิสมาอีลียะห์ (กลุ่มมุสฏะอ์ลียะห์)
พวกเขามีผู้นำคือ ดาอี อัลมุฏลัก และมีชุมชนที่เข้มแข็งในด้านศาสนา ธุรกิจ และสังคม
เป็นกลุ่มน้อยที่มีระบบความเชื่อชัดเจน แตกต่างจากทั้งซุนนีและชีอะห์อิหม่ามสิบสอง

 🙌ข้อมูลเสริมเกี่ยวกับกลุ่ม โบฮ์รา/แขกโมลา ที่คุณอาจสนใจเพิ่มเติมในเชิงลึก:


🕌 1. พิธีกรรมสำคัญของโบฮ์รา (เมื่อเทียบกับชีอะห์อื่น)

พิธีกรรม โบฮ์รา (Bohra) ชีอะห์อิหม่ามสิบสอง
อาชูรอ (Ashura) รำลึกการเสียชีวิตของอิมามฮุเซนแบบสงบ เรียบร้อย เน้นเทศนาและบทสวด มีขบวนเดินแถว, การตีอก, การสวมชุดดำ, และแสดงอารมณ์เศร้า
รอมฎอน เคร่งครัด มีตารางละหมาด–ซะฮูร–อิฟตาร์ชัดเจน เช่นเดียวกัน
วันเกิดอิหม่าม เฉลิมฉลองด้วยงานเลี้ยง เสื้อผ้าใหม่ ประดับชุมชน มีบ้างในกลุ่มชีอะห์ 12 อิหม่าม แต่ไม่เท่ากลุ่มโบฮ์รา
ญะนาเซาะฮฺ (ศพ) มีแบบฟอร์มดุอาอ์เฉพาะ, การจัดพิธีอย่างมีระบบ, มุ่งเน้นความสะอาดและศักดิ์สิทธิ์ มีพิธีสวดละหมาดศพแบบชีอะห์ทั่วไป

✳️ หมายเหตุ: โบฮ์ราให้ความสำคัญกับความเรียบร้อยและระเบียบวินัยในทุกพิธีกรรม


🧕 2. การแต่งกาย

เพศ รายละเอียด
หญิง ใส่ผ้าคลุมที่เรียกว่า ริฎอ (Rida) – คลุมศีรษะถึงไหล่ มีลวดลายสีสันสดใส ไม่ใช่ดำสนิท
ชาย ใส่ เสื้อคลุมขาว กับ หมวกกลมสีขาวลายทอง เรียกว่า topi หรือ qalansuwa

ทั้งชายและหญิงแต่งกายเฉพาะทางศาสนาแม้อยู่ในต่างประเทศ เพื่อแสดงเอกลักษณ์ของชุมชน


💍 3. การแต่งงานและโครงสร้างครอบครัว

  • โบฮ์ราเน้น แต่งงานในชุมชนเดียวกัน (endogamy) เพื่อรักษาความสามัคคี
  • การแต่งงานต้องได้รับความเห็นชอบจาก สำนักงานดาอีท้องถิ่น
  • มีแบบฟอร์ม “นิกาห์นาเมาะฮ์” (เอกสารนิกาห์) เป็นภาษาอาหรับ-กุจราตี
  • สตรีโบฮ์รามีสิทธิการศึกษาและประกอบอาชีพสูง แต่ยังรักษาบทบาทภายในครอบครัว

🏫 4. ระบบการศึกษาและศูนย์กลางชุมชน

  • มีสถาบันศาสนาเฉพาะคือ Aljamea-tus-Saifiyah (ตั้งอยู่ที่สุรัต, การาจี, ไคโร และไนโรบี)
  • ทุกศูนย์กลางจะมี มัสยิดประจำโบฮ์รา, ศูนย์ชุมชน และโรงเรียน
  • วัยรุ่นในชุมชนจะได้รับการฝึกอบรมทั้งทางศาสนาและอาชีพ

💡 5. คำศัพท์เฉพาะของโบฮ์รา

คำ ความหมาย
ดาอี ผู้นำศาสนา (ผู้แทนของอิหม่ามเร้นกาย)
มุอ์มิน ผู้ศรัทธา (ในความหมายเฉพาะของโบฮ์รา)
ดะวะฮ์ ระบบการบริหารศาสนา การเผยแผ่ และดูแลชุมชน
มะญลิส การรวมตัวฟังธรรม
ซาดิกีน ผู้นำระดับรองของดาอี

หากคุณต้องการ:

🔸 แผนภูมิภาพระบบอำนาจในกลุ่มโบฮ์รา
🔸 เส้นทางประวัติศาสตร์ของโบฮ์ราจากฟาฏิมียะห์ถึงปัจจุบัน
🔸 หรือ ภาพเปรียบเทียบวัฒนธรรมกับกลุ่มมุสลิมอื่นในเอเชีย

1. แผนภูมิระบบอำนาจของกลุ่มโบฮ์รา (Dāʿūdī Bohra)
อิหม่ามเร้นกาย
                      (Imam al-Mahdi)
                              │
              ดาอี อัลมุฏลัก (Dāʿī al-Muṭlaq)
                   ↓ ผู้นำสูงสุดทางศาสนา
                 — Sayyidna Mufaddal Saifuddin (ปัจจุบัน)
                              │
       ┌──────────────────────────────┐
  มะซูน (Mazūn)              มุกัสซิร (Mukāṣṣir)
รองดาอี / ที่ปรึกษา       หัวหน้าผู้สอนศาสนา
                              │
                วะลี อัล-วะลายะห์ (Wali al-Walayah)
              ผู้นำชุมชนระดับภูมิภาคหรือประเทศ เช่น ไทย มาเลเซีย
                              │
           อะมีล (Amīr) หรือ ประธานชุมชนท้องถิ่น
             บริหารมัสยิด-ศูนย์วะกัฟ-องค์กรการกุศล

📌 ทุกระดับต้องรายงานขึ้นตรงต่อ ดาอ์วะฮฺ (ศูนย์กลางการนำศาสนา) ที่มุมไบ อินเดีย

📜 2. เส้นทางประวัติศาสตร์ของโบฮ์รา

จุดเริ่มต้นในประวัติศาสตร์ชีอะห์อิสมาอีลียะห์
ปี/ยุค เหตุการณ์สำคัญ
-ค.ศ.765 อิหม่ามญะอ์ฟัร อัซศอดิกถึงแก่กรรม – อิสมาอีลียะห์แยกสาย
-ค.ศ.909 ก่อตั้ง ราชวงศ์ฟาฏิมียะห์ ที่ตูนิเซีย โดย Ubayd Allah al-Mahdi
-ค.ศ.969 ฟาฏิมียะห์ยึดครองอียิปต์ ตั้งกรุง อัลกอฮิเราะห์
-ค.ศ.1094 อิหม่ามมุสฏันศิรเสียชีวิต – เกิดการแยกเป็น นีซารี และ มุสฏะอ์ลียะห์
-ค.ศ.1130 มุสฏะอ์ลียะห์ในเยเมนไม่มีอิหม่ามสายเลือด – เริ่มระบบ ดาอี อัลมุฏลัก

การกระจายเข้าสู่คาบสมุทรอินเดีย

ศตวรรษ เหตุการณ์
13–14 ชาวโบฮ์ราอพยพจากเยเมนสู่ คุชราต อินเดีย
15–17 ก่อรูปชุมชนโบฮ์ราที่มั่นคงในสุรัต, อาเมดาบัด
ศตวรรษที่ 19 ผู้นำโบฮ์ราได้รับการรับรองจากอังกฤษในยุคอาณานิคม
ปัจจุบัน ดาอีประจำอยู่ที่มุมไบ มีศูนย์เผยแผ่ทั่วโลก เช่น เคนยา อียิปต์ อังกฤษ สหรัฐฯ

🌏 3. เปรียบเทียบวัฒนธรรมโบฮ์รากับมุสลิมกลุ่มอื่นในเอเชีย

หัวข้อ โบฮ์รา (Bohra) มุสลิมมาเลย์ มุสลิมอินเดีย-ปากีสถานสายซุนนี ชีอะห์อิหม่ามสิบสอง (เช่นในอิหร่าน)

ภาษาศาสนา อาหรับ-กุจราตี มลายู-อาหรับ อูรดู-อาหรับ ฟาร์ซี-อาหรับ

     การแต่งกาย เฉพาะทางศาสนา: ริฎอ, หมวกกลมทอง แต่งกายพื้นเมือง+ฮิญาบ เชอร์วานี/ชุดพื้นเมือง ผ้าคลุมดำ/ขาว, เต็มรูปแบบ
     พิธีกรรมอาชูรอ สงบ, ฟังเทศนา, บทสวด ไม่จัดเฉพาะ ส่วนใหญ่ไม่จัด เดินขบวน, ตีอก, แสดงอารมณ์
     ระบบผู้นำศาสนา ดาอีเป็นศูนย์กลางแบบรวมศูนย์ โต๊ะครู / อิหม่าม อุลามาอ์ / มัฟตี / ซูฟี มัรญะอ์ตักลีด / อายาตุลลอฮ์
บทบาทผู้หญิง ได้รับการศึกษา-ประกอบอาชีพสูง บทบาทในครอบครัวเด่น แตกต่างตามชนชั้น มีบางคนเป็นนักวิชาการศาสนา
โครงสร้างชุมชน เป็นระบบ มีศูนย์กลางทั่วโลก พึ่งพามัสยิดรัฐ ชุมชนแตกต่างหลากหลาย มีกลุ่มศูนย์กลาง เช่น มัจลิส

✳️ สรุปแบบเข้าใจง่าย:

🔹 โบฮ์รา มีระบบศาสนาเป็นลำดับขั้น มีผู้นำรวมศูนย์ที่ได้รับการยอมรับสูง

🔹 เส้นทางประวัติศาสตร์ของโบฮ์ราเชื่อมโยงจากอิหม่ามอิสมาอีลียะห์สู่ราชวงศ์ฟาฏิมียะห์ และลงสู่คุชราต

🔹 ในแง่วัฒนธรรม โบฮ์ราเป็นกลุ่มที่รักษาเอกลักษณ์ของตนทั้งในพิธีกรรม ภาษา การแต่งกาย และองค์กร


ความคิดเห็น