บทเรียนการเผยแพร่ศาสนาที่เมืองฏออีฟกับ การให้อภัย ของ นบีมูฮัมมัด

#บทเรียนการเผยแพร่ศาสนาที่เมืองฏออีฟกับ การให้อภัย ของ นบีมูฮัมมัด 

ชุมพล ศรีสมบัติ เรียบเรียง
      การกระทำ การแสดงออก ต่อผู้คน มารยาท จริยธรรม ของท่านศาสดามูฮัมมัด ศ๊อลฯ เป็นเรื่องราวที่มุสลิมทุกคนจำต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจ เพื่อจะได้นำมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต ที่นำไปสู่เป้าหมายในการเป็นมุสลิมที่นับถือศาสนาอิสลามอย่างแท้จริง  ในส่วนเรื่องของการให้อภัย กรณีเมืองฏออีฟ ก็เป็นกรณีศึกษา ถึงความอดทน การอภัย ถึงแม้นท่านจะโดนกระทำจากชาวเมืองฏออีฟ ด้วยการพูดจาถากถาง ด้วยคำพูดที่หยาบคาย หรือถูกทำร้ายด้วยการขว้างปาด้วยก้อนหิน จนศรีษะแตกเลือดโทรมกาย  สิ่งที่ท่านทำได้คือการให้อภัย 
       อาจเป็นเรื่องราวเล็ก ๆ ที่หาคนสนใจไม่ แต่ก็ชัดในแบบอย่าง การกระทำ ในขณะที่สังคม ณ ปัจจุบัน มีบุคคล หลายกลุ่ม พยายาม ที่จะทำลายอิสลามด้วยวิธีการเดียวกัน  แต่ก็มีบางกลุ่ม บางคนในพวกเรา  มักจะเลือกใช้วิธี ตอบโต้ ด้วย ตาต่อตา ฟันต่อฟัน อยากให้หยุดคิดสักนิด พิจารณา ดูตัวตนของพวกเรา ว่า เราได้ดำเนินชีวิต ตามครรลองของอิสลามอย่างแท้จริงหรือไม่ อิสลามในตัวตนของพวกเราเป็นประโยชน์ เป็นตัวอย่างกับใครบ้าง  หลายเรื่องราว หลายแบบอย่าง ประวัติศาสตร์ ได้จารึก บันทึกให้เราได้อ่าน ได้เรียนรู้  ลอง อ่านเรื่องราวเล็กๆ กับเสี้ยวหนึ่งของ ชีวิตของท่านนบี ...

#การเผยแพร่ศาสนาที่เมืองฏออีฟ

        ศาสดา มุหัมมัดตระหนักดีว่าท่านไม่อาจจะทนอยู่ในมักกะฮฺต่อไปได้หลังจากอบูฏอลิบ ซึ่งเป็นลุงและเคาะดีญะฮฺ ภรรยาของท่านได้สิ้นชีวิตไปแล้วและหลังจากที่พวกกุร็อยชมักกะฮได้บีบคั้น ท่านอย่างหนักหน่วงพวกกุร็อยชฺจะทำทุกวิถีทางเพื่อจะหยุดการเผยแพร่ศาสนาของ ท่านให้ได้ ท่านจึงคิดจะเดินทางออกไปเผยแพร่ศาสนาอิสลามนอกนครมักกกะฮฺท่านเริ่มต้นด้วย การไปเยือนชนเผ่าต่าง ๆท่านพยายามเทศนาหลักคำสอนของศาสนาใหม่ให้แก่ชนเหล่านั้นได้รับทราบซึ่งบาง เผ่าก็สนใจในคำสอนของท่าน บางเผ่าก็หาว่าท่านเสียสติระยะนั้นท่านต้องเหน็ดเหนื่อยมาก แต่ท่านยังมีความมั่นคงในอุดมการณ์ไม่เปลี่ยนแปลงระยะนี้จะมีเสียงวิพาก วิจารณ์ถึงตัวท่านในทางไม่ดีอยู่ตลอดแต่ท่านก็อดทนไม่โต้ตอบกับเสียงวิจารณ์ เหล่านั้น

        ศาสดามุหัมมัดต้องเผชิญกับเหตุการณ์ ครั้งสำคัญที่สุดและถูกกลั่นแกล้งอย่างหนักหน่วงในขณะที่ท่านเดินทางไปเผย แพร่ศาสนาที่เมืองฏออีฟเพื่อเชิญชวนให้ชนชั้นปกครองของเมืองนี้ศรัทธาต่อ เอกภาพของพระเจ้าเรียกร้องให้พวกเขาเชื่อในพระเจ้าองค์เดียว พวกเขามิใช่เพียงไม่ยอมรับยังพูดจาถากถางท่านด้วยคำพูดที่หยาบคาย พร้อมทั้งโห่ไล่ท่านให้พ้นจากที่นั่นประชาชนบางกลุ่มขว้างปาท่านด้วยก้อนหิน จนศีรษะแตกเลือดโทรมกายท่านยืนทอดอาลัยต่อความหยาบคายของพวกฏออีฟด้วยหัวใจ ที่อ่อนระโหยพร้อมทั้งขอให้พระเจ้ายกโทษให้ชนกลุ่มนี้จากความโง่เขลาที่ได้ ปฏิบัติต่อท่าน

ท่านอิบนุกะษีรได้กล่าวรายงานว่า

 "พวก มุชริกีนบางคนได้กอบเอาดินมาโปรยศีรษะท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมใน ขณะที่กำลังเดินอยู่ในตรอกหนึ่งของมักกะฮ์  ท่านเดินทางกลับโดยมีดินอยู่บนศีรษะของท่าน  บุตรีคนหนึ่งของท่านจึงทำการล้างดินออกจากศีรษะพร้อมกับร้องไห้  และท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า "โอ้ลูกน้อยเอ๋ย  เจ้าอย่าร้องไห้ไปเลย"  แท้จริงอัลเลาะฮ์ทรงปกป้องบิดาของเจ้าน่ะ"  หนังสือซ็อฟวะฮ์ อัซซีเราะฮ์อันนะบะวียะฮ์ 2/74

อิมามอัลเฆาะซาลีได้พูดถึงการปฏิบัติของนบีต่อบรรดาผู้ที่อยู่รอบๆท่านไว้โดยสรุปดังนี้ :-

- ทุกคนคิดว่านบีให้เกียรติพวกเขามาก ใครก็ตามที่มาหาท่านก็สามารถเห็นหน้าท่านได้

- ท่านเรียกสาวกของท่านด้วยนามสกุลเพื่อให้เกียรติและท่านเคยให้นามสกุลแก่ผู้ที่ไม่มีนามสกุล

- ท่านให้ความรักและความเมตตาแก่ทุกคนที่ท่านติดต่อด้วย

- ไม่มีใครพูดเสียงดังในที่ชุมนุมของท่าน
       ความ รักมนุษย์ ความคิดที่ดีงามและความเมตตาสงสารของท่านนบีมุฮัมมัดซึ่งเปลี่ยนผู้คนที่ อยู่รอบๆท่านให้มาสู่ศาสนาที่แท้จริงและทำให้หัวใจของคนเหล่านั้นได้รับความ อบอุ่นคือศีลธรรมอันสูงส่งที่มุสลิมทั้งหลายควรจะหาทางสร้างขึ้นมา  

        ดัง นั้นทั้งชีวิตของท่านร่อซูลุลลอฮ์  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  จึงเป็นมหาวิทยาลัยแห่งประชาชาติและเป็นกำลังใจของเหล่าบรรดาผู้มีความอดทน   เพราะฉะนั้นความหอมหวานแห่งความอดทนนั้น  จะไม่มีผู้ใดได้รับหรอกนอกจากมีความยากีนในอัลเลาะฮ์ซุบฮานะฮูวะตาอาลาและ เป็นผู้เจริญรอยตามการดำเนินชีวิตของท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

อัลลอฮ์ (ซ.บ) ได้ทรงตรัสต่อท่านศาสดาของพระองค์ว่า :

"จงอภัยให้พวกเขาเถิด เเละจงละวาง (จากการถือโทษโกรธเคืองพวกเขา)

เเท้จริงอัลลอฮ์ ทรงรักบรรดาผู้ประพฤตดี."(อัลมาอิดะฮ์ :13)

ท่านศาสดามูฮัมหมัด (ศ็อลฯ) เอง ก็ได้กล่าวในเรื่องนี้ว่า : -

"เเท้จริง อัลลอฮ์นั้นทรงเป็นผู้อภัยยิ่ง พระองค์ทรงรักการให้อภัย."

เเละท่านศาสดา(ศ็อลฯ) นั้น คือต้นแบบที่งดงามยิ่ง ในเรื่องของการให้อภัย 
      ท่าน ไม่เคยผูกใจเจ็บหรืออาฆาตพยาบาทต่อผู้ประชาชาติที่เป็น   ศัตรูกับท่าน แต่ท่านมักจะวิงวอนขอต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ) ให้บุคคลเหล่านั้นเสมอ โดยกล่าวว่า : -

"โอ้... พระผู้เป็นเจ้า! ได้โปรดนำทางกลุ่มชนของข้าพระองค์ด้วยเถิด เเท้จริงพวกเขาไม่รู้"

ความคิดเห็น