ชวนคุยเรื่องเลาจีนมุสลิม หรือชนชาติหุยที่เข้ามาสู่เมืองล้านนา

#ชวนคุยถึงชนชาติหุย จีนมุสลิมที่อพยพเข้าสู่เมืองล้านนา

       ภาพ​เล่าถึงเรื่องราวมุสลิมเชื้อสายจีนที่​อพยพ​เข้ามาอยู่ในเมืองล้านนา​ คนกลุ่มนี้เรียกว่าชาวหุย​  คำว่าหุย​เป็นอีกหนึ่งชนชาติกลุ่ม​หนึ่ง​ที่อยู่ในประเทศจีน

      * มีชนชาติต่าง ๆ อยู่รวมกัน 56 ชนชาติ โดยเป็นชาว ”ฮั่น” ประมาณร้อยละ 90 ที่เหลือเป็นชนกลุ่มน้อย ที่สำคัญได้แก่ ชนเผ่าจ้วง หุย อุยกูร์ หยี ทิเบต แม้ว แมนจู มองโกล ไตหรือไท เกาซัน(*สถานฑูต​จีน กรุงปักกิ่ง)

       ชาวหุย​ หรือ​ส่วนใหญ่รู้จัก​ กันในนามจีนฮ่อ​  เดินทางเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม​และเมืองล้านนา​ ไม่ต่ำกว่าร้อย​ห้าสิบปี​  ภาพที่เห็นเป็นกลุ่มชาวหุย​รุ่นแรก​ ๆ​ ก็พูดไม่ผิด​ บางท่านผมยังทันพบเจอพวกท่านอยู่ ปัจจุบันผมอายุเข้าสู่เลขหกผ่านมาแล้ว​

     ภาพแรกถ่ายกันที่หน้ามัสยิดบ้านฮ่อ​ เชียงใหม่​บุคคล​ในภาพ​ คิดว่าน่าจะลาโลก​กันหมดแล้ว​  ส่วนภาพที่สองที่เหล่าอาวุโส​ ป้อเลี้ยงใหญ่  คนจีนเรียกต้าเล่าป้าง ทั้งหลายใส่สูท​ ได้ยินเขาเล่าว่า​ ถ่ายภาพร่วมกัน​ก่อนจะเดินทางไปทำฮัจญ์​ที่ประเทศ​ซาอุดีอาระเบีย​ ซึ่งบุคคลที่ไปประกอบพิธีฮัจญ์ต้องพร้อมแล้วซึ่งทรัพย์สิน

      ภาพสุดท้าย​เป็นภาพเยาวชนในยุคนั้น​ ปัจจุบัน​ อายุอานามอย่างน้อย​ ใกล้​ ๆ​ 70​ ปีขึ้นไป​ บางท่านเป็นรุ่นพี่แอดหลายปี

ภาพท่านเย่หัวเถี่ยน หนึ่งในแกนนำสร้างมัสยิดบ้านฮ่อ

      เรื่องเล่า​ ใครมีข้อมูลเพิ่มเติม​เกี่ยวกับสามภาพนี้​ ช่วยสงเคราะห์​ เป็นวิทยาทาน​ให้ความรู้กันหน่อย เพื่อการสืบค้น​ของคนรุ่นหลัง​ 

      ชาวหุย​ เป็นชาวมุสลิม​ เป็นหนึ่งใน  56​ ชนชาติในประเทศ​จีน​ มีประชากร 9.82 ล้านคน มีประชากรหนึ่งในสามของประชากรทั้งหมดในเขตปกครองตนเองหุยหนิงเซี่ย 

      ส่วน ชนชาติ​อุยกูร์​ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่นับถือศาสนาอิลาม​ ชาวอุยกูร์ในประเทศจีนอาศัยอยู่ในเขตปกครองตนเองซินเจียง

       มุสลิมจีน​ ในล้านนา​ ที่อพยพเข้ามาเป็นชาวหุย​  **ซึ่ง​ ชาวหุย สืบเชื้อสายมาจากมุสลิมชาวเปอร์เซีย อาหรับ และเอเชียกลาง ที่อพยพเข้ามาในจักรวรรดิจีนในฐานะทูตการเมือง ทหาร และพ่อค้า ตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 บรรพบุรุษของชาวหุยจึงมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของจีน โดยเฉพาะบนเส้นทางสายไหมในภาคตะวันตกเฉียงเหนือ และเมืองท่าแถบชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจีน พ่อค้ามุสลิมนำสินค้ามีค่า เทคโนโลยีใหม่ และความมั่งคั่งสู่จักรวรรดิจีน เช่น เครื่องเทศ งาช้าง เพชรนิลจินดา พวกเขายังเผยแพร่เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ความรู้ด้านดาราศาสตร์ และการแพทย์สู่สังคมจีน

      ถึงแม้ว่าทางราชสำนักจีนได้จำกัดการค้าและการตั้งบ้านเรือนของชาวมุสลิมไว้ในจัตุรัสชาวต่างชาติเท่านั้น แต่ก็อนุญาตให้พ่อค้ามุสลิมแต่งกายได้อย่างอิสระ รับประทานอาหารและปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างเสรี

       พ่อค้ามุสลิมจำนวนมากยึดประเทศจีนเป็นสถานที่ค้าขายและเริ่มก่อร่างสร้างครอบครัวที่นี่ พวกเขาจำนวนมากหัดพูดภาษาจีนและตั้งถิ่นฐานในประเทศจีนอย่างถาวร พ่อค้าบางคนแต่งงานกับสาวชาวฮั่นที่เปลี่ยนมารับอิสลาม ลูกหลานที่สืบเชื้อสายต่อมาจากพวกเขาจึงพูดภาษาจีน และได้วางรากฐานชุมชนจีนมุสลิมที่กระจัดกระจายออกไปทั่วประเทศจีน(**วิกิพีเดีย)

      จากข้อมูลดังกล่าว เราจะเห็นว่า บรรพชน มุสลิมในประเทศจีน ถูกแยกให้เป็นหนึ่งชนชาติ  ที่อยู่ภายใต้การปกครองของจีน  ที่มีรากเหง้ามาจากเปอร์เซีย อาหรับและเอเซียกลาง เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเจริญให้ประเทศจีนทั้งด้านวิชาการและการค้า