สตรีมุสลิมภาคเหนือ อีกพลังขับเคลื่อนสังคม

สตรีมุสลิมภาคเหนือ อีกพลังขับเคลื่อนสังคม

คอลัมมุสลิมล้านนา

โดย ชุมพล ศรีสมบัติ

++++++++++++++++++

        นี่คือปรากฎการณ์ของสตรีมุสลิมภาคเหนือ ที่สามารถรวมตัวซึ่งพวกเขามาด้วยเป้าหมายเดียวกัน คือ ความเป็นเอกภาพของเหล่าสตรีผู้ศรัทธา ที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อสังคมส่วนรวม ได้รับการสนับสนุนจาก กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)

        ผมเองมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มสตรีมุสลิมในพื้นที่ภาคเหนือ ในระหว่างวันที่ 27-29 ม.ค. 59 ณ โรงแรมคุ้มภูคำ จ.เชียงใหม่ ได้เห็นปรากฎการณ์สตรีมุสลิมกว่า 14 จังหวัด ตั้งแต่นครสวรรค์จนถึงจังหวัดเชียงราย ที่มารวมตัวกัน อาจถือได้ว่าเป็นปรากฏการใหม่ เพราะเป็นการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ ที่ปรากฏให้เห็นได้ไม่ง่ายนัก 

      อาจารย์อำพัน รัถยาพิทักษ์ นายกสมาคมสตรีมุสลิมภาคเหนือ กล่าวถึงการจัดกิจกรรมครั้งนี้ว่า เป็นการการรวมตัวของสตรีมุสลิม(มุสลิมมะฮฺ) โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ให้เป็นบึกแผ่น มีความสมานสามัคคีกัน และได้ทำกิจกรรมร่วมกัน การร่วมพลังให้เป็นหนึ่งเดียว 

       “ พลังในการรวมตัวกันวันนี้ จะเป็นพลังในการประสานทุกด้าน ทั้งงบประมาณ ความร่วมมือ จากภาครัฐและเอกชน เพื่อนำมาพัฒนาชุมชนจังหวัดของตนเอง อีกทั้งเวทีนี้จะเป็นการผลักดันให้สตรีมุสลิมได้เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศร่วมกับ พี่น้องศาสนิกอื่น และเป็นที่ยอมรับของหน่วยงานภาครัฐ “

        การสัมมนาในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการรวมพลังสตรีแล้ว เรายังจะผลักดันให้เกิดสมาคมสตรีมุสลิมทุกจังหวัด สร้างเครือข่ายในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อเชื่อมโยงการทำงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีเอกภาพ โดยมี สมาคมสมาพันธ์สตรีมุสลิมแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรพี่เลี้ยง โดยภาคเหนือจะมี สมาคมสตรีมุสลิมภาคเหนือเป็นแกนนำ

    


     ขณะที่ คุณดาวดวงใจ ปาลาเล เลขาธิการสมาคมสตรีภาคเหนือ กล่าวว่า บทบาทของสมาคมฯ หนึ่งในภารกิจคือ การรวมสตรีมุสลิมให้เป็นบึกแผ่น ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าบทบาทของสตรีสามารถทำอะไรได้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทบาทด้านการส่งเสริมการศึกษา ปัจจุบันมีสถานทูตที่เป็นประเทศมุสลิมที่อยู่ในประเทศไทยจำนวนมาก ทำอย่างไรให้เราสามารถเข้าถึงแหล่งทุนการศึกษา 

“ ประเทศเหล่านี้เขามีทุนการศึกษา มีหลายอย่างที่จะสนับสนุนเรา เราจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดไปทำไม เมื่อเราอยากให้ลูกหลานได้มีโอกาสในการศึกษา ตอนนี้ประเทศมอร็อคโคการสนับสนุนทุนการศึกษาในระดับปริญญาตรี ถ้าใครสนใจเราก็จะเป็นตัวแทนประสานเพื่อจัดส่งเด็กไทยไปเรียน นี่เป็นโอกาสของลูกหลานเรา “

คุณดาวดวงใจ กล่าวอีกว่า ผู้หญิงจะทำได้ดี ทั้งเรืองการศึกษา ทั้งเรืองการช่วยเหลือ ปัจจุบันมีสตรีอีกจำนวนมากที่เขาเดือดร้อนในหลายๆเรื่อง ทั้งปัญหาครอบครัว และปัญหาผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนใต้ ซึ่งตอนนี้ทางพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ก็มีการจัดตั้งสมาคมกันเรียบร้อยไปแล้ว ทั้งนี้สมาคมสตรีจังหวัดภาคเหนือ จะรวมตัวกันเป็นสมาคมสตรีภาคเหนือ( 17 จังหวัดภาคเหนือ)  เราก็จะไปเชื่อมกับสมาคมสมาพันธ์สตรีมุสลิมแห่งประเทศไทย เพื่อทำงานผสานร่วมกันในทุกภาคส่วน

       ด้านคุณโซเฟีย ไทยอนันต์ อุปนายกสมาคมสตรีมุสลิมภาคเหนือ กล่าวถึงความคาดหวัง ว่า อับดับแรกคือ ความเป็นเอกภาพ เราอยากให้เกิดความสมานสามัคคี จากนั้นเชื่อว่าสิ่งอื่นจะตามมาเองโดยปริยาย

        “ บุคคลที่มาจุดประกายฝันให้พวกเรา ต้องขอขอบคุณอาจารย์วัลภา นีละไพจิตร ที่ท่านได้ตามเรื่องนี้มาตลอด ชี้นำให้เราได้มีวันนี้ คือการรวมกลุ่มเกิดขึ้น เป้าหมายแรกคือการสร้างความเป็นเอกภาพ อย่างอื่น ศักยภาพ สิทธิ หรือ บทบาท จะตามมาทีหลัง สิ่งนั่นคือ สิ่งที่เราปรารถนา ให้เกิดขึ้นกับสตรีมุสลิมภาคเหนือ”

       ขณะที่ อาจารย์วัลลภา นีละไพจิตร ประธานฝ่ายกิจการสตรี เยาวชน และครอบครัว มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ประสานงานที่ทำให้เกิดการสัมมนาในครั้งนี้ กล่าวว่า การทำงานผลักดันสตรีมุสลิมไม่ใช่เฉพาะแต่ภาคเหนือ เราต้องการรวมสตรีมุสลิมทั้งประเทศเข้ามาด้วยกัน 

“ ผู้หญิง มีพลังที่อยู่ในตัวแรงมาก นั่นคือพลังของความเป็นแม่ ซึ่งมันจะเป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข และสามารถที่จะลุยได้ทุกอย่างได้เพื่อจะให้ความสันติสุข ความปลอดภัย กลับคืนมาให้กับลูกหลาน “

อาจารย์วัลลภา กล่าวว่า แม้ว่าเราเป็นแม่ของลูกคนเดียวไม่ได้ แต่เราสามารถรวมตัวกันเพื่อจะให้ทุกคนเป็นพ่อ เป็นแม่ของโลกนี้ได้ ด้วยการสร้างพื้นทีใหม่ พื้นที่ ดารุลสลาม คือ บ้านแห่งความสันติ และจะต้องร่วมกันสร้างสันติภาพ ให้เกิดขึ้นให้ได้ และสิ่งนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มีพลังของสตรีมุสลิม และสิ่งสำคัญคือ ความรัก พระเจ้าให้ความรัก พรเจ้าให้ความเมตากรุณา ให้โอกาส และพระเจ้าก็ให้อภัยในการที่จะเริ่มต้นทุกสิ่งทุกอย่าง 

      นี่คือพลังสตรีมุสลิม ที่จะต้องหลวมรวมเพื่อสร้างพลัง สร้างเอกภาพ บนความเอื้ออาทร และสร้างความรักให้กับสังคมนี้ต่อไปอย่างยั่งยืน

(ตีพิมพ์ ใน นิตยสารดิอะลามี่ เดือนมีนาคม 59)






 


ความคิดเห็น