จักรพรรดิคังซี มหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่

 จักรพรรดิคังซี มหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่

      ฮ่องเต้คังซี เป็นพระโอรสลำดับ 3 ของซุ่นจื้อ ฮ่องเต้ และเป็นหลานคนโปรดของพระพันปีไท่ฮวงไทเฮา แม้ว่าฮ่องเต้ซุ่นจื้อจะระบุให้ คังซินอ๋อง ขึ้นเป็นฮ่องเต้ แต่ด้วยการสนับสนุนจากไทเฮา เสียนเย่ ก็ได้ขึ้นเป็น คังซีฮ่องเต้ ตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ และสามารถว่าราชการด้วยพระองค์เอง เมื่ออายุ 13 ปี นับว่าเป็นยุคต้นราชวงศ์ชิง บ้านเมืองยังมีความวุ่นวาย จากการต่อต้านของชาวฮั่น ที่เราเห็นกันคือ ต้านชิงกู้หมิง แต่ราชวงศ์ชิง ก็ศึกษาบทเรียนจาก ราชวงศ์หยวน (มองโกล ) ที่ปกครองด้วยความแข็ง และรีดนาทาเร้น ทำให้อยู่ได้ไม่นาน คังซีฮ่องเต้ ได้ใช้ทั้งนโยบาย แข็งกร้าว และผ่อนปรน ประกอบกัน เช่น นโยบายที่เอาใจชาวฮั่น


   • จัดพระราชพิธีปลงพระศพของพระเจ้าหมิงซือจง จักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์หมิงและพระมเหสี และสร้างสุสานถวายให้อย่างสมพระเกียรติ

   • ยกย่องขุนนางราชวงศ์หมิงที่สละชีพเพื่อปกป้องเยี่ยงวีรบุรุษ และเกลี้ยกล่อมขุนนางหมิงให้สวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์ชิงและดูแลเป็นพิเศษ

   • ยังคงใช้วิธีคัดเลือกข้าราชการโดยวิธีการสอบจอหงวนตามแบบของราชวงศ์หมิง

   • จักรพรรดิคังซี ทรงจัดทำ พจนานุกรมคังซี ซึ่งรวบรวมตัวอักษรจีนได้ครบถ้วนที่สุดสมัยนั้น และในสมัย จักรพรรดิเฉียนหลง ได้มีการรวบรวมงานวิชาการครั้งยิ่งใหญ่ทั่วประเทศจีนมาเป็น ประมวลสาส์นสี่ภาค (四庫全書 ซื่อคู่เฉวีนซู) มีการส่งเสริมบัณฑิตที่มีผลงานทางวิชาการให้ได้รับบำเหน็จ อย่างไรก็ตาม ในขณะรวบรวมผลงานทางวิชาการ หนังสือหลายเล่มถูกทำลายเนื่องจากเหตุผลทางการเมือง

   • ยกเลิกหรือลดอัตราภาษีที่ขูดรีดในท้องที่ต่างๆ และล้มแนวการปกครองที่โหดร้ายของราชวงศ์หมิง

   นโยบายแข็งกร้าว

   • สังหารประชาชนที่รวมตัวก่อจลาจลต่อต้านราชสำนักตามท้องที่ต่างๆ อย่างโหดเหี้ยม

   • ห้ามการรวมกลุ่มกันจัดตั้งสมาคมอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันการรวมพลังมวลชน

   • บังคับให้ชายชาวฮั่นทั่วประเทศต้องไว้ผมแบบชาวแมนจู คือ ไว้หางเปียยาวด้านหลัง และโกนผมครึ่งศีรษะ อย่างที่ชาวไทยคุ้นเคยกันดีจากภาพยนตร์ ใครฝ่าฝืนจะต้องโทษประหารชีวิต

   • นำกฎหมายอาชญาทางภาษา (เหวินจื้ออวี้) มาใช้หลายครั้ง เพื่อควบคุมความคิดของชาวฮั่นให้อยู่ในกรอบ ในสมัยจักรพรรดิคังซี หย่งเจิ้ง และเฉียนหลง มีปรากฏว่ามีมากถึง 70-80 คดี แต่ละคดีจะมีผู้รับเคราะห์ 10 คน จนถึงหมื่นคนก็มี ตัวอย่างคดีที่สำคัญ เช่น คดีหนังสือประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง (หมิงสื่อ) ในสมัยคังซี ที่จวนถิงหลง จัดพิมพ์ไปกล่าวกระทบประวัติศาสตร์แมนจู ราชวงศ์ชิงถึงกับขุดศพจวนถิงหลงมาแยกร่าง ผู้เขียน ตรวจอักษร ขายหนังสือ และแม้แต่ผู้มีหนังสือในครอบครองถูกประหาร 72 คน และถูกขับไล่ให้เป็นทหารแถบชายแดนอีกนับร้อยคน

   มีละครทีวีที่กล่าวถึง ฮ่องเต้คังซีไว้ หลายเรื่องทีเดียวครับ

   เรื่องแรก จักรพรรดิราชวงศ์ชิง (คังซี 1)

   เรื่องนี้เกล่าวถึง ฮ่องเต้คังซีในวัยหนุ่ม เนื่องจากพระองค์คองราชย์ตั้งแต่วัยเยาว์ และถูกสำเร็จราชการโดยขุนนางรัชสมัยก่อน พระองค์ต้องแสดงพระปรีชาแก้ไขปัญหาทั้งภายในราชสำนัก และภายนอกที่เต็มไปด้วยศึก และกบฏ

                       คังซี2

   คังซี และคดีวังหลวง มี 4 ภาค

   เป็นคังซีเมื่อพระองค์อยู่ในวัย กลางคน ได้รวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นปึกแผ่นแล้ว

   "มหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่...ผู้ห่วงใยประชาชน ปราบกลโกงพวกกังฉิน...ให้หมดสิ้นปฐมพี

   ตอน คดีขุมนางโดแมนจู

   คังซีลอบเสด็จไปที่ซูโจวเพื่อสืบความจริง เรื่องขุนนางเชื้อสายแมนจูกลั่นแกล้งประชาชน ระหว่างทางได้พบเห็นความจริงมากมายจอมจักรพรรดิจะทรงจัดการอย่างไรกับเหล่าขุนโฉด.


   .. ตอน คดีลอบชิงบัลลังก์

   คังซีปลอมตัวไปเที่ยวที่ซิงโจวจึงได้ทราบความจริงว่าที่นั่นประสบภัยแล้ง นายอำเภออู่เหลียน หลอซี่อฉาง ถูกจับเข้าคุกเพราะเปิดฉากหลวงเอาเสบียงมาแจกจ่ายประชาชน ระหว่างที่คังซีอยู่ที่ชิงโจวองค์ชายรองรัชทายาทสมคบกับสัวเอ่อถูวางแผนปลงพระชนม์คังซีเพื่อชิงบัลลังก์ จอมจักรพรรดิจะรอดพ้นจากแผนลอบปลงพระชนม์ครั้งนี้หรือไม่

   ตอน คดีทุจริตวังหลวง

   ในวังมีปัญหาเรื่องที่เงินและสิ่งของได้หายไปโดยไม่ทราบสาเหตุอยู่เสมอ ช่วงขณะนั้นเองฮ่องเต้คังซีออกมาเที่ยวข้างนอกวังก็ได้พบกับเบาะแสซึ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ แต่แล้วเรื่องราวต่าง ๆ ก็ชักยุ่งยางมากขึ้นไปอีกเมื่อมีการฆ่าปิดปากเกิดขึ้น พระองค์จะสามารถคลี่คลายคดี และจับมาตกรตัวจริงได้หรือไม่

   ตอน คดีป้ายเว้นตาย

   ปันเต๋ออู่ ถือดีว่าตัวเองมีป้ายเว้นตายจากฮ่องเต้องค์ก่อน จึงถืออำนาจบาตรใหญ่ เที่ยวข่มเหงคนไปทั่ว จางหมิงเหยียนช่างทำกาน้ำชาได้บันทึกเรื่องราวที่ตนถูก ปันต่ออู่ กลั่นแกล้งลงในกาน้ำชาที่ตนเองเป็นคนทำ วันหนึ่งฮ่องเต้คังซีทำกานำชาแตกจึงได้พบบันทึกนั้น ฮ่องเต้คังซีจะทำเช่นไรจึงจะสามารถนำความสงบสุขมาสู่ราษฎรของพระองค์ได้..."

 คดีล้างอิทธิพลเหมืองทอง

            คดีผ้าไหมพระสนม

            คดีพ่อค้ายาปลอม

   เมื่อประชาชนเดือดร้อน แต่ฮ่องเต้ไม่ได้รับรายงาน ฮ่องเต้ปลอมตัวออกจากวังไปสืบความด้วยตนเอง จึงพบความบังหลวงของขุนนางกังฉิน ใช้อำนาจบีบขุนนางท้องถิ่นโดยวิธีการที่เหี้ยมโหด ทารุณ เมื่อทรงสืบทราบความจริง จึงจับขุนนางมาลงโทษตามกฏของราชสำนัก

   ตอน สนมเอกคนใหม่

   ฮ่องเต้คังซี เสด็จประพาสเพราะกลุ้มใจที่สนมหยีได้จากไป และได้เจอกับหลินฟงเอ๋อ ที่คล้ายกับสนมหยีที่จากไป และได้เจอกับขบวนการจับคนเรียกค่าไถ่ ซึ่งเป็นเหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ใสวันนั้นเอง ฮ่องเต้ หลินฟงเอ๋อ ซานเต่อจื่อ และฝ่ายิ่นจะช่วยกันกำจัด กังฉิน เหล่านี้ได้หรือไม่

   ตอน แผนซ้อนแผน

   ตอน ทุจริตใบชา

   คังซีได้รับการยกย่องว่าเป็น จักรพรรดิ์ผู้ทรงอัจฉริยภาพ

   เมื่อพระชนมายุได้ 19 พรรษา มีขุนนางคนสำคัญผู้หนึ่งชื่อ อ่าวไป๋ ซึ่งเป็นขุนนางที่รับราชการมาแต่ครั้งจักรพรรดิไท้จง จักรพรรดิองค์ที่ 2 ของราชวงศ์ชิง อ่าวไป๋ เป็นขุนนางที่สำคัญตนว่าเป็นคนสำคัญ และมีผู้ให้การยอมรับนับถือจำนานมาก จึงได้กระทำการอย่างไม่เหมาะสมทั้งต่อหน้าและลับหลังพระองค์หลายครั้ง จนในที่สุดก็ก่อการกบฎขึ้น แต่แผนการทั้งหมดได้ถูกทำลายลงโดยกลุ่มขุนนางที่ซื่อสัตย์จงรักภักดี

   รัชสมัยของจักรพรรดิคังซีนับเป็นระยะเวลาวิกฤตของราชวง์ชิง เพราะมีการต่อสู้ระหว่างชาวฮั่นที่ต้องการกู้ราชวงศ์หมิง รวมถึงชนเผ่าอื่น ๆ ที่ต้องการก่อกบฏ จักรพรรดิคังซีทำสงครามภายในประเทศยาวนานถึง 8 ปี และเกือบจะสูญเสียราชบัลลังก์ไป แต่ด้วยพระปรีชาสามารถก็ทำให้พระองค์รอดมาได้ จนพิชิตแคว้นต่าง ๆ ได้ราบคาบ ก่อนที่พระองค์จะมีพระชนมายุ 30 พรรษา ทั้งขยายอาณาเขตถึงมองโกเลียและทิเบต หนึ่งในนโยบายสร้างความมั่นคงก็คือ สร้างสัมพันธ์กับชาวแมนจูที่อาศัยทางเหนือแต่เดิมให้แข็งแกร่ง ส่งอาวุธและกำลังพลไปรักษาชายแดนแถบนี้บ่อยครั้งเพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าอื่น อีกทั้งยังทรงออกทัพเอง และได้ทำสงครามกับรัสเซียในยุคสมัยของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช และได้รับชัยชนะด้วย ซึ่งสงครามได้จบลงที่การสร้างสัมพันธไมตรีต่อกัน รวมถึงการยกทัพบุกพม่า ทำให้จีนในยุคนี้เข้มแข็งและยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

   ขณะเดียวกันเสด็จประพาสดินแดนทางใต้ถึง 6 ครั้ง เพื่อทอดพระเนตรความเจริญ รุ่งเรืองด้านศิลปะและวิชาการของแดนใต้ และสำรวจปัญหาน้ำท่วมไร่นาของชาวนา ซึ่งต่อมาทรงส่งเสริม การสร้างเขื่อนและให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรกับชาวนา

   จักรพรรดิคังซีนับเป็นอัจฉริยบุคคล ทรงศึกษาความผิดพลาดของพวกมองโกล ช่วงที่ปกครองชาวฮั่น จึงเปลี่ยนจากวิธีการใช้ไม้แข็งเป็นไม้อ่อน เกลี้ยกล่อมให้เหล่าปราชญ์ราชบัณฑิตที่หนีภัยยุคต้นราชวงศ์สิ้นอำนาจกลับมารับราชการใหม่ ทรงสถาปนากรมจิตรกรรมที่รู้จักในนาม สถาบันจิตรกรรมหัวหยวน คล้ายที่เคยมีในสมัยราชวงศ์ซ่ง นอกจากนี้ทรงดูแลเหล่าปราชญ์และศิลปินอย่างเกษมสำราญ มอบหมายงานให้ทำอย่างเต็มที่ ไม่ว่าด้านสถาปัตยกรรมหรือประวัติศาสตร์ โดยชิ้นที่สำคัญที่สุด คือการจัดทำ พจนานุกรมรวบรวมภาษาจีน ที่เรียกกันว่า พจนานุกรมคังซี 

   จักรพรรดิคังซีสวรรคตในปี พ.ศ. 2265 (ค.ศ. 1722) รวมระยะเวลาครองราชย์ยาวนานถึง 61 ปี นับเป็นจักรพรรดิที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดพระองค์หนึ่งในประวัติศาตร์จีน

   

   คัดลอกจาก

 http://www.oknation.net/blog/moviehall/2008/04/22/entry-2

ความคิดเห็น