ผู้นำ บนเงื่อนไขอัลอิสลาม

 ผู้นำ บนเงื่อนไขในอิสลาม

แด่ท่านผ้นำ  โดย Shakirin Sumalee

        

    (1)  เนื่องจากปัจจุบัน เราต้องยอมรับว่าการเมืองเข้ามาครอบงำผู้นำทุกระดับทุกหย่อมหญ้า ไม่ว่าจะเป็นพุทธ หรือมุสลิม ตั้งแต่ระดับอิหม่าม หรือผู้ใหญ่บ้าน ขึ้นไป ซึ่งมันจะสวนทางกับนิยามของความเป็นผู้นำในศาสนา แล้วใครล่ะ ที่ทำให้ระบอบการเมืองเข้ามีผลหรือมีอิทธิพลในระบอบของศาสนา ดังเช่นทุกวันนี้...?

        เราต้องยอมรับว่า เงื่อนไขในปัจจุบัน มันทำให้เราหาผู้นำที่ได้มาตรฐานนั้นยาก แต่ก็ต้องหาให้ใกล้เคียงกับมาตรฐานที่สุด และเราต้องทำใจ ว่ามันยังคงห่างไกลจากมาตรฐานมาก และเราต้องทำใจยอมรับตั้งแต่ต้น เพื่อเราจะต้องทำงานให้ได้ เพราะผู้นำที่มีมาตรฐานสูงสุด มักจะไม่อยู่เคียงคู่กับการเมือง

 ((1)Putsadee Muhamad ) 

   إن الحمد لله , نحمده ونستعينه ونستغفره , ونعوذبالله من شرور أنفسنا ومن سيّئات أعمالنا , من يهده الله فلامضلّ له , ومن يضلل فلا هادىله , ونشهد أن لا إله الا الله , وأن

   محمدا عبده ورسوله , صلّى الله عليه وعلى آله وصحبه وسلّم تسليما كثيرا.

   ก่อน อื่นขอเรียนว่าบทความนี้ผู้เขียนมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้เห็นภาพลักษณ์ ของสังคมที่ควรจะเป็น นั่นคือ เป็นสังคมที่ยืนบนอะกีดะฮฺ อิสลามียะฮฺ ที่เข็มแข็ง มีภาพลักษณ์ที่สวยงาม ดังนั้นท่านผู้นำจึงต้องมีความสง่างามทั้งด้านบุคลิกภาพ และที่มา ท่านต้องเป็นผู้ทรงภูมิรู้ ท่านต้องใช้อิสลามเป็นกรอบวิธีคิดในการบริหารองค์กร มิใช่ใช้วิธีคิดทางการเมืองมาบริหารกิจการศาสนาอิสลาม ท่านผู้นำต้องบริหารงานอย่างโปร่งใสโดยไม่เห็นแก่พวกพ้องท่านผู้นำต้องเป็น ที่พึ่งทางด้านศาสนาและจิตใจแก่พี่น้องมุสลิมในได้เป็น อย่างดี ท่านต้องให้ความเป็นธรรมแก่พี่น้องมุสลิมเมื่อพวกเขาร้องขอ ท่านต้องเห็นความสำคัญของพี่น้องมุสลิมก่อนพวกพ้อง ท่านต้องทำในสิ่งที่สร้างสรรค์ และท่านหลีกห่างจากสิ่งที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคม ท่านต้องทำหน้าที่สมานฉันท์รอยร้าวระหว่างพี่น้องมุสลิมกลุ่มต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างกัน ท่านต้องบริหารกิจการศาสนาอิสลามโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง และที่สำคัญท่านต้องบริหารหรือทำหน้าที่ตามกรอบที่อัลกุรอ่านและอัซซุนนะฮ์ กำหนดให้ท่านทำ มิใช่ทำตามกรอบของ พรบ.การบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ.2540 เพียงเท่านั้น นี่คือภาพลักษณ์ของสังคมมุสลิมนครศรีธรรมราชที่ควรจะเป็น

   ขณะนี้สังคมมุสลิมเรากำลังมีนานาปัญหาที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรงจนยากที่จะเยียวยา เช่น

   1. ปัญหาการรุกรานจากลัทธิความเชื่ออื่นที่บิดเบือนศาสนาอิสลาม (ชีอะฮฺ)

   2. ปัญหาการไม่นำหลักการอิสลาม (الفقة) มาเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินปัญหาทางศาสนา

   3. ปัญหาความแตกแยกของสังคมมุสลิม

   3.1 ความแตกแยกระหว่างกลุ่มต่าง ๆ

   3.2 ปัญหาความแตกแยกภายในมุเก็มต่าง ๆ ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากอิหม่าม และอิหม่ามเหล่านั้นก็เป็นพวกพ้องกับท่านผู้นำ

   4. ปัญหาความเสื่อมทรามทางสังคม เช่น

   4.1 ปัญหาการไม่รู้ศาสนา

   4.2 ปัญหายาเสพติด

   4.3 ปัญหาการประพฤติผิดทางเพศ

   4.4 ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวและสังคมมุสลิม

   4.5 ปัญหาการฉ้อโกงทรัพย์สินฯลฯ

   จากปัญหาทั้งหมดนี้พอที่จะสรุปได้ว่า สังคมเราต้องการ

   1. ผู้นำที่จะนำพาสังคมไปสู่ความสุข สงบ ความปลอดภัยทั้งดุนยาและอาคีเราะฮ์

   2. ผู้นำที่เป็นผู้พิพากษาโดยใช้หลักการอิสลามอย่างเที่ยงธรรม

   ท่าน ผู้นำครับปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากท่านผู้นำมองปัญหา วินิจฉัยปัญหา และแก้ไขปัญหาโดยใช้อิสลามเป็นบรรทัดฐาน ห่างไกลจากแนวคิดหรือวิธีคิดอื่นใดนอกเหนือจากอิสลาม (إن شاءالله )

   ท่าน ผู้นำครับเรามิบังอาจที่จะตักเตือนท่าน แต่เราขอนำเสนอบางส่วนจากอัลกุรอ่านและอัซซุนนะฮฺ เผื่อว่าบางที่ท่านผู้นำทั้งหลายจะได้นำเอาสิ่งเหล่านี้ไปพิจารณาบ้างไม่มาก ก็น้อย

   ท่านผู้นำโปรดพิจารณาด้วยครับว่าท่านสามารถนำพาสังคมไปสู่ความสุข สงบ ความปลอดภัยทั้งดุนยาและอาคีเราะฮ์ได้หรือไม่

   อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงตรัสว่า

   إنما السبيل على الذين يظلمون الناس ويبغون فى الأرض يغير الحق أولئك لهم عذاب أليم

   ความ ว่า แท้จริงแนวทางของบรรดาผู้อยุติธรรมต่อประชาชนและมุ่งฉ้อฉลในหน้าแผ่นดิน โดยไร้สัจธรรม พวกเขาเหล่านั้นจะได้รับโทษอย่างแสนสาหัส (ชูรอ : 42)

   ท่านรอซูลทรง กล่าวว่า “เมื่ออัลลอฮฺประสงค์ความดีแก่กลุ่มชนใด พระองค์จะทรงมอบให้ผู้สุขุมของพวกเขาเป็นผู้ปกครองเขา ให้นักปราชญ์ของพวกเขา เป็นผู้พิพากษาระหว่างพวกเขา และบันดาลทรัพย์สินให้อยู่ใน (การครอบครองของ) ผู้ใจเอื้อเฟื้อแห่งพวกเขา และเมื่อทรงประสงค์จะให้กลุ่มชนใดชั่วร้าย พระองค์จะบันดาล ให้คนเลวของพวกเขาปกครองพวกเขา ให้คนโง่ของพวกเขาพิพากษาในระหว่างพวกเขา และทรงบันดาลทรัพย์สินให้อยู่ใน (การครอบครองของ) คนตระหนี่ของพวกเขา” (รายงานโดย...อัดดัยละมีย์)

   ท่านรอ ซูลทรงกล่าวว่า “แท้จริงอัลลอฮฺจะสอบถามผู้มีหน้าที่ทุกคน ถึงหน้าที่ที่เขาได้รับมอบหมายนั้น ว่าเขาได้รักษามันไว้อย่างดีหรือเขาได้ละเลยต่อหน้าที่นั้น จนแม้กระทั่งผู้ชายคนหนึ่งก็จะถูกถามถึงครอบครัวของเขา (ว่าเลี้ยงดูและรับผิดชอบหรือไม่)” (รายงานโดย...อันนะซาอีย์ )

   ท่านรอซูลทรงกล่าวว่า “ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ จะถูกสอบถามถึงสิ่งที่เป็นความรับผิดชอบของเขาในวันปรภพ”

   (รายงานโดย...อัลคอตีบ)

   ท่าน รอซูลทรงกล่าวว่า “แท้จริงผู้ปกครอง เมื่อแสวงหาความระแวงในหมู่ประชาชน (โดยการปกครองด้วยอคติไม่หวังดีต่อประชาชน) แน่นอนเขาได้ทำลายประชาชน” (รายงานโดย...อะบูดาวุด)

   ท่านรอซูลทรงกล่าวว่า”แท้จริงมนุษย์ที่อัล ลอฮฺรักมากที่สุดในวันปรภพ และเป็นมนุษย์ที่มีที่นั่งใกล้ชิดที่สุดกับอัลลอฮฺ คือ ผู้นำที่มีความยุติธรรม และมนุษย์ที่อัลลอฮฺทรงพิโรธมากที่สุดและที่ห่างไกลจากอัลลอฮฺมากที่สุด คือ ผู้นำที่ลำเอียง” (รายงานโดย...อะหมัด)

   ท่าน รอซูลทรงกล่าวว่า “แท้จริงเจ้าของอำนาจปกครองนั้น อยู่บนประตูแห่งความลำเค็ญ ยกเว้นบุคคลที่อัลลอฮฺทรงคุ้มครองเท่านั้น” (รายงานโดย...อัลบารูดีย์)

   ท่านรอซูลทรงกล่าวว่า “แท้จริงฉันกลัวผู้นำที่หลงผิดทั้งหลาย จะยังอันตรายแก่ประชาชาติของฉัน” (รายงานโดย...บุคอรีย์)

   ท่านรอซูลทรงกล่าวว่า”หากพวกท่านประสงค์ ฉันก็จะบอกพวกท่านถึงอำนาจปกครองว่ามันคืออะไร ? ลำดับแรก คือ การถูกตำหนิ อันดับที่สอง คือ ความโศกเศร้า และอันดับที่สาม คือ การรับโทษในวันปรภพ ยกเว้นผู้ที่มีความยุติธรรมเท่านั้น” (รายงานโดย...อัฏฏอบารอนีย์)

   ท่านรอซูลทรงกล่าวว่า”ทุกสิ่ง ทุกอย่างย่อมมีพิษร้ายที่จะทำลายมัน และพิษร้ายของศาสนานี้ได้แก่บรรดาผู้ปกครองที่ชั่วช้า” (รายงานโดย...อัลฮาริษ อิบนุอบีอุซามะฮฺ)

   ท่านรอซูลทรงกล่าวว่า “ผู้ใดได้รับหน้าที่การปกครองเพียงสิ่งหนึ่งจากภารกิจของมวลมุสลิม อัลลอฮฺจะไม่เหลียวแลเขาในความเดือดร้อนของเขา จนกว่าเขาจะดูแลความเดือดร้อนของมวลมุสลิม” (รายงานโดย...อัฏฏอบรอนีย์)

   ท่านรอ ซูลทรงกล่าวว่า “ความวิบัติย่อมประสบแก่ผู้ปกครอง เนื่องจากพลเมือง (ที่เขาปกครองนั้น ซึ่งเขาไม่ดูแล ไม่ให้ความเป็นธรรม) นอกจากผู้ปกครองซึ่งเขาเอาใจใส่ต่อพวกเขาจากเบื้องหลังของพวกเขา ด้วยการแนะนำ”

   (รายงานโดย...อัรรอยยานีย์)

   ท่านรอซูล ทรงกล่าวว่า “ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบคนใด ที่ไม่เมตตาต่อสิ่งที่เขารับผิดชอบ อัลลอฮฺจักห้ามสวรรค์เหนือเขา” (รายงานโดย...ค็อยสะมะฮฺ)

   ท่านผู้นำโปรดพิจารณาด้วยครับ ท่านสามารถเป็นผู้พิพากษาโดยใช้หลักการอิสลามอย่างเที่ยงธรรม และเคร่งครัดหรือไม่

   รอ ซูลทรงกล่าวว่า “ผู้ใดวินิจฉัยโดยปราศจากความรู้ แน่นอนมาลาอีกัตแห่งฟากฟ้าและแผ่นดินย่อมสาปแช่งเขา” (รายงานโดย...อิบนูอะซากิร)

   ท่านรอซูลทรงกล่าวว่า “ผู้ใดวินิจฉัยโดยปราศจากความรู้ บาปนั้นจะตกแก่ผู้วินิจฉัย และผู้ใดชี้กิจการหนึ่งแก่พี่น้องของเขา โดยเขารู้ว่าความถูกต้องนั้นเป็นอย่างอื่น จากที่เขาวินิจฉัยไว้ แน่นอนเขาได้ทำลายพี่น้องของเขาแล้ว”


   (รายงานโดย...อะบูดาวุด , อัลฮากิม)

   ท่านรอซูลทรงกล่าวว่า “ผู้พิพากษามี 3 ประเภท สองประเภทอยู่ในนรก และผู้พิพากษาประเภทเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสวรรค์ ผู้พิพากษาประเภทที่ 1 เขาพิพากษาไปโดยกิเลส เขาต้องอยู่ในนรก ผู้พิพากษาอีกหนึ่งเขาพิพากษาโดยปราศจากความรู้ เขาก็ตกอยู่ในนรก และอีกหนึ่งผู้พิพากษาเขาพิพากษาโดยสัจธรรม เขาย่อมได้เข้าสวรรค์ “ (รายงานโดย...อัฏฏอบรอนีย์)

   ท่านรอซูลทรงกล่าวว่า “แท้จริงอัลลอฮฺจะอยู่ร่วมกับผู้พิพากษา ตราบใดที่เขายังไม่ลำเอียง แต่เมื่อเขาลำเอียง (ในการพิพากษา) อัลลอฮฺก็พ้นไปจากเขา และมารร้ายจะเข้ามาประจำกับเขา(แทน)” (รายงานโดย... อัลบัยฮะกีย์)

   ท่านรอซูลทรงกล่าวว่า “แท้จริงผู้มีความยุติธรรม ณ อัลลอฮฺในวันปรภพ (เขาจะได้อยู่)บนมิมบัรที่ทำมาจากรัศมี ซึ่งสถิตอยู่เบื้องขวาของ (อัลลอฮฺ) ผู้ทรงเมตตา และพระหัตถ์ทั้งสองข้างของพระองค์ คือข้างขวาของบรรดาผู้มีความยุติธรรมในการพิพากษาของพวกเขา , ครอบครัวของเขา , และสิ่งที่พวกเขาปกครองอยู่” (รายงานโดย...อะหมัด)

   ท่านรอซูลทรงกล่าวว่า “บุคคลที่ได้รับหน้าที่พิพากษา แน่นอน (เท่ากับ) เขาถูกฆ่าโดยปราศจากมีด”

   (รายงานโดย...อะบูดาวุด)

   ท่านรอซูลทรงกล่าวว่า “บุคคลใดแสวงหา (ตำแหน่ง) การพิพากษา (ระหว่างมวลมุสลิม) และได้ขอต่อบรรดาผู้สงเคราะห์ (ให้ช่วยหาเสียงให้เขาได้ตำแหน่ง) เกี่ยวกับสิ่งนั้น แน่นอน จะถูกมอบหมายสิ่งนั้นแก่ตัวของเขา (เพื่อเขารับผิดชอบเอง โดยอัลลอฮฺไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย) และบุคคลใดถูกบังคับให้ทำการพิพากษา อัลลอฮฺจะส่งมาลาอิกะฮฺหนึ่งลงมาช่วยแนะทางถูกแก่เขา”

   (รายงานโดย...อัตติรมีซีย์)

   โอ้ท่านผู้นำโปรดใช้ดุลพินิจของท่านในการเลือกผู้นำตามแนวทางที่ท่านรอซูล ได้กำหนดไว้เถิด ท่านโปรดเลือกผู้รู้มาเป็นผู้นำเถิดครับ เพราะรอซูลได้ทรงกล่าวว่า

   “บรรดาผู้รู้เป็นผู้นำ , บรรดาผู้ยำเกรงพระเจ้าเป็นนาย , และบรรดาผู้ที่นั่งร่วมกับเขาทั้งหมดเป็นส่วนเพิ่เติม”

   (รายงานโดย...อิบนุนัจญาร)

   “บรรดาผู้รู้ ทั้งหลาย(العلماء) เป็นผู้สืบทอดมรดกของบรรดาศาสดา ชาวฟ้าจะรักพวกเขา และพวกปลาในทะเล ก็จะขออภัยให้แก่เขา เมื่อเขาเสียชีวิต ตราบถึงปรภพ” (รายงานโดย...อิบนุนัจญาร)

   “บรรดาผู้รู้ ทั้งหลาย(العلماء) เป็นที่ไว้วางใจแก่ประชาชาติของฉัน” (รายงานโดย...อัดดัยละมีย์)

   “ผู้ รู้และผู้เรียนต่างก็หุ้นส่วนในความดี ส่วนมนุษย์ทั้งหลาย (ที่ไม่เรียนและไม่รู้) ไม่มีความดีในตัวเขาเลย” (รายงานโดย...อัฏฏอบรอนีย์)

   “ผู้รู้เป็นผู้ครองอำนาจแห่งอัลลอฮฺในแผ่น ดิน บุคคลใดทำการบริภาษ (ด้วยการตำหนิและให้ร้าย) เขาจะประสบความหายนะ” (รายงานโดย...อัดดัยละมีย์)   


   “ผู้รู้ได้รับความเลอเลิศเหนือกว่าผู้นมัสการถึงเจ็ดสิบขั้น ความห่างระหว่างแต่ละสองขั้นนั้น ประดุจดังระหว่างฟ้าและดิน” (รายงานโดย...อะบูยะลา)ช

   “ใน วันกียามะฮฺ คน 3 คนนี้ จะช่วยสงเคราะห์ (ผู้อื่นได้) บรรดาศาสนทูต( الأنبياء) , ถัดจากนั้นบรรดานักปราชญ์ (العلماء) ,ถัดจากนั้น บรรดาผู้เสียสละชีวิตในสงคราม (الشهداء) “ (รายงานโดย...อิบนิมาญะฮฺ)

   “บรรดา นักการศาสนา (الفقهاء) เป็นผู้ได้รับความไว้วางใจจากศาสดา ตราบใดเขายังไม่เข้า (ไปหวังประโยชน์)ในโลกนี้ และไม่แสวงหาอำนาจ แต่เมื่อพวกเขาทำเช่นนั้นพวกท่านจงตักเตือนเขา" (รายงานโดย...อัลอัชกะรีย์)

   “แท้ ที่จริงบางอย่างที่ถือเป็นการยกย่องอัลลอฮฺ (เหมือนกัน) คือ การยกย่องผู้อาวุโสที่เป็นมุสลิม , ผู้ที่ถือมั่นในอัลกุรอ่าน โดยไม่มีการล่วงละเมิดและไม่ห่างเหินอัลกุรอ่าน , และการยกย่องผู้มีอำนาจที่มีความยุติธรรม”

   (รายงานโดย...อะบูดาวุด)

   “บุคคลใดก็ตามที่ได้แต่ง ตั้งให้ชายผู้หนึ่งปกครองคน 10 คน ซึ่งเขารู้ดีว่าในสิบคนนั้น มีผู้ที่เลอเลิศกว่าบุคคลที่เขาแต่งตั้งไว้ แน่นอนเขาได้ละเมิดอัลลอฮฺ” (รายงานโดย...อะบูยะลา)

   “แท้ จริงอัลลอฮฺจะไม่ทรงให้ความรู้เลือนหายไปจากความทรงจำของมนุษย์ แต่พระองค์จะทำให้ความรู้เลือนหายไปด้วยการจากไปของปวงปราชญ์ จนกระทั่งไม่มีความรู้ (ปวงปราชญ์) หลงเหลืออยู่เลย เมื่อเป็นดังนี้มนุษย์ก็จะแต่งตั้งผู้โง่เขลา جاهل) ) เป็นผู้นำ เมื่อผู้นำถูกถามปัญหาใด ๆ ก็จะตอบโดยไม่มีความรู้ พวกผู้นำจึงเป็นพวกหลงผิด และทำให้ผู้อื่นหลงผิดด้วย” (รายงานโดย...มุสลิม)

   สุดท้าย ไม่ว่าใคร ผู้ใด จะได้รับเลือกให้เป็นผู้นำขอให้ผู้นำทั้งหลายโปรดนำพาพวกเราไปสู่ความโปรด ปราน ความรักของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) อย่างแท้จริงด้วยเถิด ด้วยการที่ท่านจักต้องเป็น ดังนี้

   1. ท่านจะต้องยึดมั่นในสัจธรรมแห่งอัลอิสลาม (الحق)อย่างเข้มแข็ง ท่านจะต้องไม่ยอมให้อำนาจแห่งความชั่วร้าย (طاغوت) เข้ามาครอบงำ

   2. ท่านต้องเป็นผู้นำที่แท้จริง ไม่ใช่เป็นเงาให้ใครบางคน

   3.. ท่านต้องเป็นผู้นำที่มีความสง่างามทั้งทางด้านภูมิรู้ บุคลิกภาพ และที่มาของตำแหน่ง เพราะท่าน คือความภาคภูมิใจของมวลมุสลิม

   4. ท่านต้องเป็นบุคคลที่เป็นตัวอย่าง / แบบอย่างให้แก่สังคมทั่วไป (Islamic Symbolic)

   5. ท่านต้องทำหน้าที่ปรองดอง สมานฉันท์ ระหว่างพี่น้องมุสลิมให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โปรดนำพาพวกเราให้พ้นจากการลงโทษในกุโบร ในวันกียามะฮฺ และโปรดนำพาพวกเราไปสู่สรวงสวรรค์ของอัลลอฮฺด้วยเถิด

   جزاكم الله خيرا  

ที่มา http://www.facebook.com/note.php?note_id=10150298311575942

โพสต์ในเว็บไซต์มุสลิมเชียงใหม่ดอทเน็ตเมื่อ: กันยายน 24, 2010

ความคิดเห็น