รวมภาษิตคำเมือง/ศัพท์ กำเมืองล้านนา 2

 รวมภาษิต/ศัพท์ล้านนา 2


     198 มีนึ่งแล้วจะแอมแหมสอง ขี่เฮือน้ำนองซ้อนสองจ้างหล้ม : แอม หมายถึง เคียง, หล้ม หมายถึง พัง จม เปรียบได้กับชายที่มีคู่ครองของตนเองอยู่แล้วแต่อยากได้อีกคนหนึ่ง ทำให้เกิดปัญหาในชีวิตครอบครัวตามมา เป็นสุภาษิตที่สอนให้รู้จักพึงพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่    

197 ไฟในจะไปนำออก ไฟนอกจะไปนำเข้า : ไฟใน หมายถึง เรื่องราวภายใจ, ไฟนอก หมายถึง เรื่องราวภายนอก "อย่าเอาเรื่องภายในครอบครัวไปเล่าให้ผู้อื่นฟัง อย่าเอาเรื่องภายนอกครอบครัวมาเล่าให้คนในครอบครัวฟัง" เป็นสุภาษิตสอนคนให้รู้จักรักษาวงศ์ตระกูล ไม่ควรนำเรื่องภายในเล่าสู่คนนอก และไม่ควรนำเรื่องภายนอกมาสู่ครอบครัว    

196 ฝนจะตกจะไปเจื้อใจ๋ดาว มีลูกสาวจะไปเจื้อใจ๋มัน : "ฝนจะตกจะไปเชื่อใจดาว มีลูกสาวอย่าไปเชื่อใจมัน" ท้องฟ้าที่โล่งโปร่งเห็นดาว อย่าเพิ่งคิดว่าฝนจะไม่ตกลงมา คนมีลูกสาวอย่าไปคิดว่าเป็นคนดีเพราะเราไม่ได้อยู่กับเขาตลอดเวลา ลับหลังอาจจะประพฤติอีกอย่างหนึ่ง เป็นสุภาษิตสอนคนให้มีสติ และใช้ปัญญาคิดให้รอบคอบ ไม่ควรตัดสินใจเชื่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยยังไม่ได้ไตร่ตรอง    

195 บ่ดีเอาลูกเปิ้นมาเลี้ยง บ่ดีเอาขี้เหมี้ยงเปิ้นมาอม : ลูกเปิ้น หมายถึง ลูกคนอื่น, ขี้เหมี้ยง หมายถึง กากของเมี่ยงที่อมแล้วคายออกมา "อย่าเอาลูกคนอื่นมาเลี้ยง อย่าเอากากเหมี้ยงเขามาอม" การเอาลูกคนอื่นมาเลี้ยงอาจไม่เหมือนกับเลี้ยงดูลูกของเราเอง ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าในสายเลือดว่าจะดีหรือไม่ เราอาจจะเดือนร้อนในภายหน้า เช่นเดียวกับเอากากเหมี้ยงที่คนอื่นอมแล้วคายออกมาอมอีก รสชาติย่อมจืดชืด    194 ได้ผ้าต๊วบใกล้แจ้ง : ผ้าต๊วบ หมายถึง ผ้าห่ม ใกล้แจ้ง หมายถึง เกือบสว่าง "ได้ผ้าห่มเมื่อเกือบสว่าง" เป็นสุภาษิตที่ใช้เปรียบเทียบกับชายชรา แต่ยังหาคู่ครองไม่ได้ ต่อมาจึงพบหญิงที่ถูกใจเมื่อยามที่มีอายุมากแล้ว หรือเปรียบได้กับการทำงานที่จวนจะแล้วเสร็จ แต่พึ่งจะได้เครื่องมือที่ดีมาใช้ ตรงกับสุภาษิตภาคกลาง "พบไม้งามยามเมื่อขวานบิ่น"  

193 ครั่งใกล้ไฟ ไขใกล้แดด : หนุ่มสาวอยู่ใกล้กันมักจะ้กิดเรื่องในเชิงชูสาวขึ้นได้ เปรียบได้กับครั่งที่ใกล้กับไฟ และไขที่ตากแดด ย่อมถูกความร้อนเผาจนหลอมละลาย ตรงกับสุภาษิตภาคกลางว่า "น้ำตาลใกล้มด"     

192 ขี้เหมี้ยงเกิดกับเหล็ก : ขี้เหมี้ยง หมายถึง สนิม "สนิมมักจะกิดขึ้นกับเหล็ก" เป็นสุภาษิตที่กล่าวถึงสิ่งที่เกิดมาคู่กัน ย่อมหนีกันไม่พ้น เปรียบเช่นเดียวกับชายหนุ่มและหญิงสาวเป็นของคู่กัน   

191 ขาหน้าบ่เต้าขาหลัง : บ่เต้า หมายถึง ไม่เท่า "ขาหน้าไม่เท่าขาหลัง" เป็นสุภาษิตที่กล่าวถึง บุคคลที่แม้จะไปหลงระเริงอยู่กับสิ่งใหม่ โดยทิ้งลูกเมียหรือ ลืมบ้านเกิดอันเป็น ภูมิลำเนาเดิมของตนไว้เบื้องหลัง อย่างไรก็ตามก็ยังห่วงหาอาวรณ์ลูกเมีย ญาติพี่น้อยอยู่เสมอ  

190 ของกิ๋นลำอยู่ตี้คนมัก ของฮักอยู่ตี้คนเปิงใจ๋ : ลำ หมายถึง อร่อย, มัก หมายถึง ชอบ พอใจ, เปิงใจ๋ หมายถึง ถูกใจ อาหารจะอร่อยอยู่ที่คนชอบ ผู้หญิง-ผู้ชายจะรักชอบใครขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล ไม่สามารถที่จะบังคับกันได้   

189 กว๋างฟานมันตึงบ่ต๋ายเหล่าใหม่ มันตึงมาต๋ายเหล่าเก่า : ฟาน หมายถึง อีเก้ง, เหล่า หมายถึง ป่าละเมาะ "กวาง หรือ อีเก้ง จะไม่ตายในป่าละเมาะที่อยู่ใหม่ แต่จะกลับไปตายยังป่าเดิมที่มันเคยอยู่" แสดงถึงความรักถิ่นเกิดของสัตว์ เป็นสุภาษิตที่กระตุ้นเตือนให้คนเกิดความสำนึก และรักมาตุภูมิของตน เมื่อจากไปอยู่แห่งใดก็ไม่ควรละเลยที่จะกลับมาทำประโยชน์ให้ถิ่นฐานบ้านเกิดของตน     

188 หล็วกใส่ตั๋วเอาหัวเข้าฮ่ม : ฮ่ม หมายถึง ร่ม "เอาความฉลาดเข้าหาตัวเอง เอาหัวเข้าที่ร่ม" เพื่อที่จะได้พ้นจากแดดจากฝน เป็นสุภาษิตกล่าวถึงบุคคลที่มีความเห็นแก่ตัว ชอบเอาตัวรอดเพียงคนเดียว โดยไม่ได้ห่วงใยคนอื่นหรือให้ความช่วยเหลือผู้อื่น อยู่ที่ไหนก็มักจะเอาเปรียบผู้อื่นอยู่เสมอ   

187 สอนเปิ้นไต่ขัว ตั๋วกลั๋วตกน้ำ : ขัว หมายถึง สะพาน "สอนคนอื่นให้ข้ามสะพาน ตัวเองกลัวตกน้ำ" เปรียบเทียบกับคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง บอกกล่าวให้คนอื่นกระทำ ในสิ่งที่ตัวเองไม่กล้าทำทั้งๆ ที่ตัวเองสามารถทำได้ แต่กลับให้คนอื่นทำแทน 

186 ไม้ต้นเดียวบ่เป๋นก๋อ ป๋อต้นเดียวบ่เป๋นเหล่า : ก๋อ หมายถึง กลุ่มแห่งต้นไม้ที่เกิดจากเหง้าเดียวกัน เชื้อสายเดียวกัน "ไม้ต้นเดียวไม่เรียกเป็นกอ ต้นปอต้นเดียวก็ไม่เรียกเป็นป่า" เป็นสุภาษิตที่กล่าวถึง คนเราไม่สามารถที่จะอยู่ตามลำพังเพียงคนเดียว และไม่สามารถที่จะทำงานใหญ่ได้สำเร็จลงได้ตามลำพังต้องประสานและพึ่งพาบุคคลอื่น    

185 เมื่อจะกิ่วขอหื้อกิ่วคองู เมื่อจะอูขอหื้นอูคอจ๊าง : กิ่ว หมายถึง คอดกิ่ว หื้อ หมายถึง ให้ อู หมายถึง ใหญ่ เมื่อถึงเวลาตกอับก็จงทำตัวให้เหมือนงู งูถึงคอมันจะเล็กก็ยังชูคอได้อย่างสง่าไม่ยอมให้ใครเหยียบย่ำได้ เมื่อถึงเวลาร่ำรวยก็ขอให้ร่ำรวยจริงเหมือนดังช้างที่มีตัวและลำคอใหญ่โตไม่ใช่รวยแต่เปลือกนอก   

184 ไปเมืองใดก็หื้อเอาไฟเมืองนั้น : ไปเมืองใดก็ให้เอาไฟเมืองนั้น" เป็นสุภาษิตสอนให้รู้จักการวางตนให้เหมาะสมในสถานที่ต่าง ๆ อย่าทำตัวต่างจากคนอื่นมากนัก ตรงกับสุภาษิตภาคกลาง "เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม"   

     183 แป๋งเจื๊อไว้หลายต้า หม่าเข้าไว้หลายเมือง : เจื้อ หมายถึง เมล็ดพันธุ์ หม่า หมายถึง หมัก,แช่ "เพาะเมล็ดพันธุ์ไว้หลายแห่ง หมักข้าวไว้หลายเมือง" เป็นสุภาษิตที่สอนเกี่ยวกับการคบค้าสมาคมกับบุคคลอื่น ความผูกมิตรกับบุคคลต่างๆ ไว้เพราะในอนาคตอาจมีความจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาอาศัยกัน 

182 ปล๋าตั๋วเดียวเน่าตึงซ้า : ซ้า หมายถึง ตะกร้า ปลาที่อยู่ในตะกร้าเดียวกัน เมื่อปลาตัวใดเน่าก็จะส่งกลิ่นเหม็นทั้งตะกร้า เปรียบได้กับการทำงานเป็นหมู่คณะ เมื่อมีคนใดคนหนึ่งก่อเรื่องหรือทำให้เสื่อมเสีย ก็จะทำให้คนทั้งหมู่คณะ เสียหายไปด้วย    180 จับใจ๋แฮ้ง บ่แหน้นใจ๋ก๋า จับใจ๋หมอยา พยาธิบ่สู้ : แฮ้ง หมายถึง แร้ง "ถูกใจแร้ง ไม่ถูกใจกา ถูกใจหมอยา พยาธิไม่ชอบ" เป็นสุภาษิตที่สอนให้ตระหนักว่า คนเราต่างจิตต่างใจชอบกันไปคนละอย่าง  

179 จักกิ๋นก็ขี้จ๊ะ จักละก็เสียดาย : ขี้จ๊ะ หมายถึง น่ารังเกียจ น่าขยะแขยง "จะกินก็รังเกียจ จะทิ้งไปก็เสียดาย" เป็นลักษณะของคนที่หวงแหนสิ่งของไว้ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ต้องการ หรือไม่เห็นคุณค่า แต่เมื่อเห็นคนอื่นเห็นคุณค่าหรือความสำคัญก็ไม่ยอมให้ คล้ายสุภาษิตภาคกลาง "หมาหวงกว้าง"   

178 เงินคำหาได้ น้ำใจ๋หายาก : เงินทองหาได้ง่าย แต่จะหาคนที่มีความจริงใจ มีน้ำใจได้ยาก   

177 งัวตั๋วใดกิ๋นหญ้าแผกหมู่ กันบ่ต๋ายเปิ้นห่าก็ต๋ายเสือขบ : แผก หมายถึง แยกออกไป ขบ หมายถึง กัด "วัวตัวใดกินหญ้าแยกจากฝูง ถ้าไม่ตายเพราะถูกฆ่าก็จะตายเพราะถูกเสือกัด" เป็นสุภาษิตสอนให้คนอยู่รวมเป็นหมู่พวก ถ้ามีพฤติกรรมผิดแผกแปลกไปจากบุคคลอื่น ในที่สุดบุคคลนั้นก็จะไม่มีใครคบค้าสมาคมด้วย กลายเป็นคนที่โดดเดี่ยว และไม่สามารถแก้ปัญหาตามลำพังได้   

176 คนฮักเต้าผืนหนัง คนจังเต้าผืนสาด : เต้า หมายถึง เท่า "คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ" คือมีคนรักและคนชังพอๆ กัน ไม่ควรหวังว่าคนทั้งหลายจะรักเราทุกคน เมื่อมีคนรักก็ย่อมมีคนเกลียดชังด้วยเหมือนกัน เป็นสุภาษิตสอนคนไม่ให้หวังอะไรมากเกินไป   

175 คนเนรคุณ ฮ้ายหลัง ดีหน้า : ฮ้าย หมายถึง ร้าย คนเนรคุณมักจะหน้าไหว้หลังหลอก ต่อหน้าผู้มีพระคุณประพฤติดี แต่พอลับหลังกลับประพฤติไม่ดี ตรงกับสุภาษิตคนภาคกลางที่ว่า "หน้าไหว้หลังหลอก"   

174 คนขี้จิ๊ไปไหน ไผบ่ถามหา คนมีเมตต๋าไปไหน บ่กั้น : ขี้จิ๊ หมายถึง ตระหนี่ เห็นแก่ตัว กั้น หมายถึง อดอยาก "คนตระหนี่ไปที่ไหน ไม่มีใครถามหา คนมีเมตตาไปที่ไหนไม่มีวันอดอยาก" คนที่มีเมตตาถึงแม้จะมีความทุกข์ยากย่อมได้รับความช่วยเหลือ ต่างกับคนที่ตระหนี่ไม่มีใครที่จะให้ความช่วยเหลือเวลาทุกข์   

173 เข้าหมู่แฮ้งเป็นแฮ้ง เข้าหมู่ก๋าเป๋นก๋า : แฮ้ง หมายถึง แร้ง "เข้าไปรวมกับแร้งก็เป็นแร้ง เข้าไปรวมกับกาก็เป็นกา" เป็นสุภาษิตที่สอนให้รู้จักการวางตนในการคบหาสมาคมกับผู้อื่น ควรทำเองให้เข้ากับบุคคลเหล่านั้นให้ได้ เพื่อได้รับการยอมรับจากผู้อื่น   

172 ของกิ๋นลำปั๋นกั๋นกิ๋นคนหน้อย กิ๋นคนเดียวจ้างแก๊น : ลำ หมายถึง อร่อย, ปั๋น หมายถึง แบ่ง, แก๊น หมายถึง สำลัก "ของอร่อยต้องแบ่งปันกันกินคนละเล็กละน้อย กินเองจะสำลัก" เป็นสุภาษิตสอนคนให้รู้จักแบ่งปันข้าวของ หรือผลประโยชน์ให้ผู้อื่น ควรมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่คนทั่วไป จะทำให้สังคมอยู่อย่างสงบสุข   

171 ก้อนหินขว้างซัด ถูกตี้หินขัง จ้างหุมขะนัง สะต๊อนใส่หน้า : หินขัง หมายถึง บริเวณที่มีหินผา, ขะนัง หมายถึง ขว้างทิ้งไป "ถ้าขว้างก้อนหินไปถูกหินที่อยู่บริเวณนั้น ก้อนหินนั้นอาจสะท้อนกลับมาถูกหน้าผู้ขว้างได้" เปรียบได้กับการจะทำสิ่งใดก็ตามควรคิดให้ดีก่อนลงมือทำ ให้ระมัดระวังผลที่จะสะท้อนกลับเข้าหาตนเอง เช่น ถ้าทำร้ายผู้อื่น ผลร้ายจะกลับมาถึงตน พูดให้ร้ายบุคคลอื่นตัวเองก็จะเป็นแบบนั้น   

170 กั๊บตี้อยู่ได้ กั๊บใจ๋อยู่ยาก : กั๊บตี้ หมายถึง แออัด คับแคบ, กั๊บใจ๋ หมายถึง อึดอัดใจ คับแค้นใจ "คับที่อยู่ คับใจอยู่ยาก" ที่อยู่อาศัยถึงแม้จะคับแคบ แต่ผู้ที่อยู่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันก็อยู่กันอย่างมีความสุข ตรงกันข้ามถ้าคนที่อยู่ไม่มีน้ำใจต่อกัน ที่อยู่อาศัยแม้จะใหญ่โตก็อยู่อย่างไม่สบายใจ อึดอัดทุกข์ใจ   

169 ฮักเบื้องย่ำแคม : เบื้อง หมายถึง ข้าง ด้าน ทาง ,แคม หมายถึง ข้าง "รักด้านหนึ่งแต่เหยียบอีกด้านหนึ่งไว้" เป็นการกระทำที่ไม่สม่ำเสมอหรือทัดเทียมกัน จะเป็นคำสอนในเรื่องการวางตัวของผู้ปกครอง ควรวางตัวเป็นกลางอย่ารักคนหนึ่งเกลียดคนหนึ่ง      168 อยู่กับคนไบ้เหมือนผ่าไม้ตั้ดต๋า อยู่กับคนมีผหยาเหมือนผ่าไม้โล่งปล้อง : ตั้ดต๋า หมายถึง ตรงกับบริเวณตา ,โล่ง หมายถึง มีลักษณะว่างหรือเปิดตลอด ,ไบ้ หมายถึง ไม่มีปัญญา "อยู่กับคนไม่มีปัญญาเหมือนผ่าไม้ตรงตาไม้ แต่อยู่กับคนที่มีปัญญา สามารถผ่าไม้ได้ตลอดทั้งปล้อง" เป็นสุภาษิตใช้เปรียบเทียบการใช้งานระหว่างคนฉลาดกับคนโง่ การให้คนโง่ทำกิจการหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งย่อมเป็นการยากที่จะสำเร็จ ตรงข้ามกับการใช้คนฉลาดย่อมจะทำให้งานหรือกิจการนั้นสำเร็จมากกว่า คนฉลาดมักจะได้เปรียบเสมอในการทำกิจการงานต่างๆ   

167 อย่าเอาคนไบ้นำหน้า อย่าเอาต๋าบอดนำตาง : ไบ้ หมายถึง ไม่มีปัญญา "อย่าเอาคนโง่นำหน้า อย่าเอาคนตาบอดนำทาง" เป็นสุภาษิตสอนให้รู้จักเลือกเอาคนที่ดี มีความรู้ ความสามารถเป็นผู้นำ ไม่เอาคนชั่วเป็นผู้นำ เพราะอาจทำให้หลงทางไปในทางชั่วได้ เหมือนกับการเอาคนตาบอดนำทาง   

166 เหล็กบ่เหลี้ยมเปิ้นบ่เอาจี คนบ่ดีเปิ้นบ่ใจ๊ : บ่ไคว่ หมายถึง ไม่ทั่ว เหล็กที่ไม่แหลมคม จะไม่เอามาใช้ คนไม่ดีไม่มีใครอยากจะเรียกใช้งาน เป็นสุภาษิตสอนผู้ที่เป็นหัวหน้าให้รู้จักเลือกใช้คน คนที่ไม่ดี หรือไม่มีความขยันอดทน หรือขาดความฉลาดไม่ควรที่จะนำมาใช้งานบางอย่าง เพราะอาจจะทำให้งานนั้นไม่สำเร็จลุล่วงได้   

165 เล่นหมา หมาเลียหน้า เล่นข้า ข้าหยุบหัว : หยุบ หมายถึง จับ เจ้าของสุนัขเลี้ยงให้ข้าวให้น้ำแก่มัน เล่นคลุกคลีเป็นประจำ มักจะไม่กลัวเจ้าของและเลียหน้าตาเจ้าของ เช่นเดียวกับขุนนาง หรือคนร่ำรวยที่มีข้าทาสบริวารมาก ถ้าทำตัวสนิทสนมคุ้นเคยกับข้าทาสบริวารมากเกินไป พวกข้าทาสบริวารก็จะไม่มีความเกรงใจ ขาดความนับถือ  

164 ฝนตกบ่ไคว่ใบไม้ : บ่ไคว่ หมายถึง ไม่ทั่ว ฝนตกไม่ทั่วถึง คือ ตกกระจายเป็นหย่อมๆ ในบางพื้นที่ เปรียบเทียบกับการทำอะไรที่ไม่ทั่วถึง เช่น การให้สิ่งของแก่บริวารโดยไม่ทั่วถึงกัน ตรงกับสุภาษิตภาคกลางที่ว่า "ฝนตกไม่ทั่วฟ้า"   

163 นกบ่บินบ่จ้างก๋ำปีกมันอ้า ควายบ่กิ๋นหญ้าบ่จ้างข่มเขามันลง : ข่ม หมายถึง ใช้กำลังกดลง นกที่ไม่ชอบบิน ถึงแม้จะใช้มือจับปีกมันอ้า มันก็ไม่บิน ควายไม่กินหญ้าถึงข่มเขาให้มันลงกินหญ้ามันก็ไม่กิน เปรียบเหมือนกับคน สิ่งใดงานใดที่เขาไม่ชอบไม่ควรจะบังคับฝืนใจ ผลที่ออกมาจะไม่ดีเท่าที่ควร   

162 งัวลากเฟืองก็กิ๋นเฟือง : งัว หมายถึง วัว เฟือง หมายถึง ฟาง การทำสิ่งใดที่มีผลประโยชน์ ก็ต้องได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากกิจการงานนั้น ๆ เช่น ถ้าขอให้คนอื่นช่วยทำงานใดๆ ที่เกิดผลประโยชน์ ก็ต้องแบ่งปันผลประโยชน์เหล่านั้นให้กับคนที่ช่วยทำงานนั้นตามสมควรจะให้คนที่เขามาช่วยงานต้องใช้จ่ายเงินในกระเป๋าของเขาเองเป็นการไม่ถูกต้อง  

161 เค่งนักมักปุด : เค่ง หมายถึง ตึง ไม่หย่อน ปุด หมายถึง ขาด การกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเคร่งครัดเกินไปมักจะไม่ได้ผล เช่น สายเครื่องดนตรี ตึงเกินไปสายก็จะขาด ถ้าหย่อนเกินไปก็จะไม่ได้ยินเสียง ฉะนั้นเองกระทำการสิ่งใด ไม่ควรรีบร้อนและเร่งรีบกระทำลงไป  

160 กบบ่หื้อเกี้ยด เขียดบ่หื้อต๋าย : เกี้ยด หมายถึง โกรธ เคือง ไม่พอใจ "กบไม่ให้เคืองใจ เขียดไม่ให้ตาย" เป็นสุภาษิตที่สอนเกี่ยวกับการถนอมน้ำใจของทั้งสองฝ่าย เตือนคนที่เป็นหัวหน้าหรือผู้บริหารให้รู้จักถนอมน้ำใจลูกน้องยามที่มีปัญหาขัดแย้งกัน   

159 อยากมีหื้อหมั่นก๊า อยากขึ้นสวรรค์จั๊นฟ้าหื้อฆ่าเจ้าเอาของ : ก๊า หมายถึง ค้าขาย, จั๊นฟ้า หมายถึง สวรรค์ อยากร่ำอยากรวยให้มีความขยันขันแข็งในกิจการงาน หรือค้าขาย อยากขึ้นสวรรค์ให้ฆ่ากิเลสตัณหาต่างๆ ที่มีอยู่ในตัว โดยการประพฤติตนดีถูกต้องตามหลักศีลธรรม เมื่อตายไปจะได้ไปในทางที่ดี  

158 หันเปิ้นมีจะไปใคร่ได้ หันเปิ้นขี้ไร้จะไปดูแควน : ขี้ไร้ หมายถึง ยากจน, ดูแควน หมายถึง ดูหมิ่น ดูถูก "เห็นคนอื่นมีข้าวของหรือร่ำรวย อยากได้อยากเป็นอย่างคนอื่น เห็นคนอื่นยากจนก็ดูหมิ่นดูแคลน" เป็นสุภาษิตสอนคนให้รู้จักประมาณตนเองจงพอใจในสิ่งที่ตนเองนั้นมีอยู่ และอย่าไปดูหมิ่นคนที่ยากจนกว่าเรา ควรช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถที่จะช่วยได้   


157 หนีฝนบ่ป๊นฟ้า หนีฝ้าบ่ป๊นตะวัน : ป๊น หมายถึง พ้น, ฝ้า หมายถึง เมฆ ก้อนเมฆ "หนีฝนไม่พ้นฟ้า หนีเมฆไม่พ้นตะวัน" เป็นสุภาษิตสอนให้รู้สัจธรรมแห่งชีวิตว่า ในบางเรื่องเราไม่อาจที่จะหนีหลุด<ความตาย ทุกคนต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้   

  156 เปิ้นว่าเสือ ตั๋วว่าพระเจ้า : การหลงใหลชื่นชมในสิ่งที่คนส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ดี แต่ตนเองคิดว่าดี เป็นสุภาษิตกล่าวถึงคนที่หลงผิดไปชื่นชมสิ่งที่ไม่ดี เมื่อคนเตือนสติก็คิดว่า เขาอิจฉาไม่อยากให้ตนเองได้ดี เมื่อเกิดผิดพลาดขึ้น มาก็เสียใจที่ไม่เชื่อคำเตือนของผู้อื่นเสียแต่แรกตรงกับสุภาษิตภาคกลางว่า "เห็นกงจักรเป็นดอกบัว"    ยิ้มเท่ห์

http://www.suthatsunday.com/forum/index.php?topic=91.0

สุภาษิตเมืองเหนือ คำเมืองล้านนา                                                                                                               

                                 

  " ของกิ๋นลำอยู่ตี้คนมัก ของฮักอยู่ตี้คนเปิงใจ๋ "   ศัพท์ ลำ หมายถึง อร่อย, มัก หมายถึง ชอบ พอใจ, เปิงใจ๋ หมายถึง ถูกใจ  อาหารจะอร่อยอยู่ที่คนชอบ ผู้หญิง-ผู้ชายจะรักชอบใครขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล ไม่สามารถที่จะบังคับกันได้

  " ขาหน้าบ่เต้าขาหลัง "   ศัพท์ บ่เต้า หมายถึง ไม่เท่า    "ขาหน้าไม่เท่าขาหลัง" เป็นสุภาษิตที่กล่าวถึง บุคคลที่แม้จะไปหลงระเริงอยู่กับสิ่งใหม่ โดยทิ้งลูกเมียหรือ ลืมบ้านเกิดอันเป็น ภูมิลำเนาเดิมของตนไว้เบื้องหลัง อย่างไรก็ตามก็ยังห่วงหาอาวรณ์ลูกเมีย ญาติพี่น้อยอยู่เสมอ                         " ขี้เหมี้ยงเกิดกับเหล็ก "    ศัพท์ ขี้เหมี้ยง หมายถึง สนิม    "สนิมมักจะกิดขึ้นกับเหล็ก" เป็นสุภาษิตที่กล่าวถึงสิ่งที่เกิดมาคู่กัน ย่อมหนีกันไม่พ้น เปรียบเช่นเดียวกับชายหนุ่มและหญิงสาวเป็นของคู่กัน                                      

   " ได้ผ้าต๊วบใกล้แจ้ง " ศัพท์ ผ้าต๊วบ หมายถึง ผ้าห่ม ใกล้แจ้ง หมายถึง เกือบสว่าง   "ได้ผ้าห่มเมื่อเกือบสว่าง" เป็นสุภาษิตที่ใช้เปรียบเทียบกับชายชรา แต่ยังหาคู่ครองไม่ได้ ต่อมาจึงพบหญิงที่ถูกใจเมื่อยามที่มีอายุมากแล้ว หรือเปรียบได้กับการทำงานที่จวนจะแล้วเสร็จ แต่พึ่งจะได้เครื่องมือที่ดีมาใช้ ตรงกับสุภาษิตภาคกลาง "พบไม้งามยามเมื่อขวานบิ่น"                                    

  " ฝนจะตกจะไปเจื้อใจ๋ดาว มีลูกสาวจะไปเจื้อใจ๋มัน "     "ฝนจะตกจะไปเชื่อใจดาว มีลูกสาวอย่าไปเชื่อใจมัน" ท้องฟ้าที่โล่งโปร่งเห็นดาว อย่าเพิ่งคิดว่าฝนจะไม่ตกลงมา คนมีลูกสาวอย่าไปคิดว่าเป็นคนดีเพราะเราไม่ได้อยู่กับเขาตลอดเวลา ลับหลังอาจจะประพฤติอีกอย่างหนึ่ง เป็นสุภาษิตสอนคนให้มีสติ และใช้ปัญญาคิดให้รอบคอบ ไม่ควรตัดสินใจเชื่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยยังไม่ได้ไตร่ตรอง                                     

  " เยียะไฮ่ไกล๋ต๋า เยียะนาไกล๋บ้าน "  "การทำไร่ไกลตา การทำนาไกลบ้าน" ย่อมยากแก่การดูแลรักษา มักถูกรบกวนจากศัตรูพืชและมนุษย์อยู่เสมอ เป็นสุภาษิตสอนคนเกี่ยวกับเรื่องของความรัก ความรักมักแพ้ความใกล้ชิด ความห่างไกลมักทำให้เกิดความห่างเหินจนทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปลี่ยนใจได้                                    

    " อย่าอวดสูงกว่าป้อแม่ อย่าอวดแก่กว่าอาจารย์ "     "อย่าคิดว่าตนเองสูงส่ง หรือฉลาดกว่าพ่อแม่ อย่าคิดว่าตนเองเก่ง ฉลาดกว่าครูอาจารย์" เป็นสุภาษิตสอนคนให้มีความเคารพ นับถือบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดามารดา และครูอาจารย์ เพราะท่านเหล่านั้นเป็นผู้มีพระคุณและมีประสบการณ์มากกว่าเรา             

  สุภาษิตคำเมือง  คำไทย(คำอธิบาย)                

 461 ฮักปี่เสียดายน้อง : รักพี่เสียดายน้อง                                    

 451 ก้อยอยู่ต๋ามน้ำ ย๊ะไปต๋าตั๋ว น้ำเปียงใด ดอกบัวตึงเต้าอั้น : อย่าทำอะไรเกินตัว ขนาดอกบัวไม่สามารถลอยขึ้นไปอยู่บนชั้นฟ้าได้                         449 หั้นขี้ดีกว่าใส้ : เห็นคนที่รักดีกว่าคนที่มีพระคุณ                        

  447 ลูกกำพร้าบะมีไผ๋สอน จิ้งหรีดแมงจอนไผ๋สอนมันเต้น : หยั่งอั้นเนาะ                        

 446 หมาหลายเจ้ากิ๋นข้าวหลายไห : รู้จักคนไปทั่ว มีเพื่อนเยอะ                        

 444 เลี้ยงหมาหลายเผื่อว้อ : คบผู้ชายหรือผู้หญิงต้องคบทีละหลายคนเพื่อจะได้นำมาเปรียบเทียบแล้วตัดทิ้งทีละคน (จนไม่เหลือใคร) 555+++                                      

  443 บ่ตันนั่งจะไปฟั่งเยียดแค่ง : หมายถึงทำอะไรต้องเป็นขั้นเป็นตอนอย่ารีบเร่งเดี๋ยวจะพลาดเอาได้                        

441 จิ๊กปิ๊กตี้ไหนกะป้อ..จ้อหว้อตี้ไหนกะควัก : อ่อนไหนแทงแข็งไหนก็เว้น...เลือกที่รักมักที่ชัง            

 440 กิ๋นขี้เขียง : คนดุ โมโหร้าย                        

  439 นำใจ๋คนเมือง บ่ เถียง บ่ ด่า นำใจ๋คนป่าบ่ด่า บ่ เถียง : มารยาทในการต้อนรับแขก                        

 438 กินข้าวกับเกลือลำเหลือจิ้นปิ้ง นำพริกปล๋าทู บ่ ลำเหมือนจิ้น : ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง                        

  437 กำอู้เหมือนผีสอนตี่นอนเหมือนมุ้งกระต่าย : คนที่มักชอบพูดแต่ไม่ชอบทำ                        

   436 กำขี้ดีกว่ากำตด : อย่าโลภมาก                        

  434 ข้ามโข๋บ่าโป้นฟั้งห่ม : ตัวเองทำอะไรยังไม่สำเร็จอย่าพึ่งว่าให้คนอื่น            

 433 หนังแห้งบ่าเกยปอง : คนไม่เคยมีเงินแล้วพอมีเงินแล้วทำเป็นหยิ่ง                        

 432 สื้อบ้านแถมจาน : แต่งงานกับคนที่มีลูกติด                        

 431 กำอู้คนหลกวจั้งสับปะหลี้มาจ๋ากำดีลอกลิ้น กำอู้อ้ายหวานเหมือนน้ำต๋าลน้ำมิ้น จ่างสับปะหลี้ปายลูน : คนลอกแลกคนหัวสูง                         429 ปี่ฮู้สอง น้องฮู้หนึ่ง : คนโตย่อยรู้กว่าคนที่มีอายุน้อยกว่า                          

 427 กิ๋นบ่จ่างก็เป็นหนี้ ขี้บ่จ่างก็เป็นตุกข์ : ไม่รู้จักประมาณ                        

 426 หล๊วกบ่มีไผเต่าง่าวบ่มีไผเปียง : อวดรู้                        

 425 ฮักเน้อล่ะอ่อนง้าว : รักน๊ะเด็กโง่                          

 424 ตกต่าเป้นดีไข้หัว ตกต่าตัวดีไข้ไห้ : ตอนที่คนอื่นเดือดร้อนไม่ช่วยเหลือกลับหัวเหราะ พอถึงทีตัวเองก็เลยไม่มีไครช่วย                           420 ขี้แห้งจับตาหมา : คนไม่สวย ยังได้คนหน้าตาดีมาเป็นคู่ คนไม่หล่อ ยังได้คนหน้าตาดีมาเป็นแฟน                          

   419 อ่อนไหนแตง แข็งไหนเว้น : ไม่ยุติธรรม ถ้าเจอคนที่ด้อยกว่า ก็จะค่อยแกล้งตลอด แต่ถ้าเจอคนที่สูงกว่า ก็ไม่กล้าที่จะร้ายเค้า                            418 เผื่อฮู้คิง น้ำปิงปอแห้ง : กว่ารู้สึกตัวก็สายเสียแล้ว                                     

 417 ดักอย่างต้ากเข้าหีวอก : เงียบมาก ๆ ขนาดลิงยังไม่รู้ตัว                        

  411 ว่าเปิ้ลบผ่อตั้ว : ว่าแต่เขาไม่ดูตนเอง                           405 จะไปตี๋กล๋องเอี่ยงฟ้า จะขี้ม้าเอี่ยงตะวัน : อย่าไปกระทำสิ่งใดแข่งกับคนที่มีฐานะดีกว่า ให้รู้จักพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ เพราะการอยากได้อยากมีเหมือนคนอื่นจะทำให้ทุกข์ยากยิ่งกว่าเดิม                        

   403 ปากหมา : ปากคล้ายหมา พูดแต่คำไม่สุภาพ ตบแมร่งเยย                        

   402 รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี รักผัวให้กระถืบ - -'' : รักผัวก้อต้องทำร้ายกันบ้างน้า                        

 398 ใจ้กุ้งไปหาหนอง : บ่ฮู่ว่าจะแปลจะใด น่าจะใช้คนไปทำอะไรซักอย่างแต่ไปนานมากๆ เหมือนกับเอากุ้งไปปล่อยที่หนองหรือแหล่งของมัน                         395 งัวลืมตี๋น : คนที่ได้ดีแล้วลืมตัวเหมือนสุภาษิตที่ว่าคางคกได้วอ                        

 388 จุ๊เปิ้นเมา บ่าเอาเปิ้นแต้ : โกหกให้ผู้อื่นหลงไหลตังเองแต่สุดท้ายกลับไม่สนใจเขา                          

  387 ใจ๋บ่สู้ บ่ได้ขี่จ้างม้างาม : ใจไม่กล้าจะไม่ประสบความสำเร็จ                        

  385 วอกขี้ยาบ่อเต่าฮาจะฮื้อ : คนติดยาจะโกหกทุกอย่างเพื่อให้ทีเงินซื้อยาแต่ก็ยังไม่เท่ากับบางคนที่ยืมเงินไปแล้วบอกว่าจะใช้แต่ยังไม่ใช้สักที... เฮ้อ...หุหุหุ                        

   384 ก๋ากิ๋นปี๋ปากจั้งเสร้า คนกิ๋นยากิ๋นเหล้าจั้งปากนัก : เปรียบเทียบนิสัยของคนเหมือนสัตว์                        

 380 ฮักปี้เสียดายน้อง : รักพี่เสียดายน้อง                        

  379 จะจูงก็ลู้ไปก่อน จะส่อนก็ลู้โตยก้น : ดื้อรั้น                          

  378 กำกึดดีขายสะลีนอนสาด กำกึดฉลาดขายสาดนอนสะลี : คนคิดดีขายของดีเอาของเก่าใช้ คนคิดอีกอย่างเอาของดีใช้เอาของเก่าขาย                           376 ของเกยปากสากเกยมือ : ทำสิ่งที่ทำเป็นประจำ                        

  375 เผื่อฮู้คิงน้ำปิงปอแห้ง : รู้เมื่อสายเกินไป                        

    374 มีนึ่งแล้ว จะเอาแหมสอง ขี่เฮือน้ำนอง ซ้อนสองจั่งหล้ม : เปรียบได้กับการมีคู่ครองอยู่แล้ว ไม่พอใจ อยากได้อีกเป็นสอง ครอบครัวมักไปไม่รอดต้องล่มกลางครัน                          

   373 กิ๋นจ๊าดหลาย ต๋ายคนเดียว : ทำอะไรกับคนหมู่มากเวลาได้ผลประโยชน์ ได้เป็นหมู่คณะ เวลามีปัญหา เหลือคนรับภาระหนักอยู่คนเดียว               

  372 จะไปตี๋กล๋องเอี่ยงฟ้า จะไปขี่ม้าเอี๋ยงตะวัน : อย่าไปกระทำสิ่งใดแข่งกับคนที่มีฐานะดีกว่า ให้รู้จักพึงพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ เพราะการอยากได้อยากมีเหมือนคนอื่นจะทำให้ตนเองทุกข์ยากยิ่งกว่าเดิม                          

   369 ของกิ๋นลำอยู่ตี่คนมัก : ของกินอร่อยอยู่ที่คนชอบ                        

   368 ฮู้จักหน้า บ่ฮู้จักใจ๋ : รู้จักหน้าไม่รู้จักใจ                        

  367 บ่ฮู้หื้อถาม บ่งามหื้อหย้อง : ไม่รู้ให้ถาม ไม่สวยให้แต่ง                        

    366 กกหางปล่อยวัด : ตัดหางปล่อยวัด                        

 365 ต๊กต่าเปิ้นเป๋นดีไข่หัวตกต่าตั๋วเป๋นดีไข่ไห้ : เห็นความทุกข์ของผู้อื่นกลับเป็นเรื่องตลกหัวเราะพอถึงทีตัวเองเข้าบ้างกลับหัวเราะไม่ออก                           364 ฮู้ขี้เป่นตุม : ตูดเป็นตุ่ม                        

    363 ฮู้ก่อว่าฮัก : รู้อะป่าวว่า LOVE                        

  362 กิ๋นข้าวกับปล๋า ดีกว่ากิ๋นหมากับเหล้า : กินข้าว กับปลา ดีกว่าไปกินหมากับเหล้า                        

  359 ได้กินแลนบ่ดีลืมคุณหมา ได้กินป๋าบ่ดีลืมคุณแห : อย่าลืมบุญคุณในสิ่งต่างๆ ที่ได้พึ่งพาอาศัย                        

  358 ปากหวานก้นส้ม : ต่อหน้าทำเป็นพูดีแต่ลับหลังกลัยนินทา            

  357 กิ๋นหว๋อมหว๋อมผอมจ้อข้อ : กินเท่าไรอย่าไรก็ไม่อ้วน                        

 355 แมงบ้งบ่ต๋ายกั้นใบไม้ : คือการที่คนเราจะท้อถอยและกลัวที่จะไม่มีอะไรจะกินไม่ต้องกลัวเพราะคนเรายังไงก็ตัองมีกินอยู่วันยังค่ำ                         353 หล๊วกคนเดียวบ่าเต่าง่าวตึงหมู่ : คนฉลาดคนเดียวบ้างทีสู้คนโง่เป็นกลุ่มไม่ได้                        

   352 ดาบดีไว้ในฝัก คนหล๊วกไว้ในใจ๋ : คมในฝักอย่าคุยโวโอ้อวดตัวเอง                        

   351 ตุ้มผ้าลายหมาจ่างเห่า อู้กำเก่ามันจ่างผิดกั๋น : เรื่องที่เเล้ว ๆ มาไม่ควรรื้อฟื้นมาพูด จะทำให้ทะเลาะกันเปล่า ๆ                          

   350 คนปอใหญ่แล้วบะถ้ามาสอน จิ้งหีดแมงจอนไผสอนมันเต้น : โตแล้ว            

    349 บ่านายลูกเจื้อ : ลูกรัก                        

    346 บ่ตันเข้าป่าก็หันเสือ : เพียงแค่เริ่มก็มีอุปสรรคให้เห็น                        

   344 บ่ดีกินก่อนตาน บ่ดีมารก่อนแต่ง : ไม่ควรทำอะไรที่เกินเลยศีลธรรม เช่น ของตานเป็นของพระสงฆ์องค์เจ้าถ้าเกิดว่ามีคนทานก่อนเสียแล้ว ยอมไม่ดี(ช่วยเสริมด้วยครับ)                        

  342 ปากได้ไส้ญาว : เถียงคำไม่ตกฝาก                        

   341 ยามตี่อักน้ำต้มผักอุ่ว่าล้ำ ยามชังน้ำตาลยังอุ่ขม : ยามรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน ยามชังน้ำตาลยังว่าขมคือเมื่อมีรักุกสิ่งุอย่างก้อดีไม่หมดแต่พอชังกันุกอย่างก้เหมือนไม่ดีไปหมด                        

  340 กำขี้ดีกว่ากำตด : ได้ของที่ดี ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย                          

    339 ดุมมนี : สีสันต่างๆ                        

    338 เคร่งนักมักปุด : ทำอะไรให้พอเหมาะพอดีไม่หย่อนหรือตึงจนเกินไป                        

  337 กว่าจะฮู้คิงน้ำปิงปอแห้ง : พอรู้สึกตัวก็สายเสียแล้ว                        

  335 ไฟมา ป่าเป่ง มดแดงเต้ง ผักหวานโป่ง ฝนลง เห็ดถอบออก หญ้างอก งัวเล็ม : ธรรมชาติของล้านนาบ้านเราเป็นสิ่งสามารถถ่ายทอด และอนุรักษ์ต่อ ๆ ไปได้ในหลายรูปแบบ                        

  334 หย้าเสี้ยง ก่อม้าอิ่ม : กินให้พอดี เหมือนม้าเวลาหญ้าหมด ก็คือ อิ่ม คือ รู้จักพอนั่นเอง                        

   333 มารบ่มี บารมีบ่เกิด : คนชั่วไม่มีคนดีก็คงจะไม่มี ( คำของหลวงปู่)                        

 332 ขายสลีนอนสาด : ใชสิ่งของที่ตนมีในครอบครองไม่เป็น หรือไม่นำเอาของที่ตนมีมาใช้ให้เกิดประดยชน์                        

    331 เก็บผักเก็บไม้บ่ดีเก็บไก๋ เก็บต๋ามตี๋นบันใดปอใช่ปอกิ๋น : ไม่ควรละโมบโลภมาก                        

   330 เป๋นตุ๊เป็นพระหื้อหมั่นอ่านธรรม เป๋นเจ้าเป็นนายบ่ดีค่ำคน : เป็นพระสงฆ์ให้ขยันอ่านเรียนพระธรรม ถ้าเป็นเจ้าคนนายคนอย่าได้เอาเปรียบหรือกดขี่ผู้อื่น                        

   329 ไม้ก๊ดใจ้แป๋งขอ เหล็กงอใจ้แป๋งเคียว คนก๊ดกำเดียวใจ้ก๋านบ่ได้ : ไม้คดใช้ทำตะขอ เหล็กงอใช้ทำเคียว แต่คนคดโกง ใช้ไม้ได้เลย                         328 ข้ามน้ำบ่าเลิ้ก จะไปฟั่งแก้เตี่ยว : อาการนี้ คือ เหมือนคนจะข้ามแม่น้ำในสมัยก่อนไม่มีสะพานต้องเดินลุยลงน้ำไป แต่คาดการณ์ผิด คิดว่าน้ำลึก เลยถอดกางเกงออก                        

   327 ใจ๊ผีไปหาป่าเห่ว : สำนวนนี้แปลว่า ใช้ผีไปป่าช้า ไปไหนนานๆจนลืม หรือไปในที่ถูกใจคนที่ถูกใช้                        

    326 กั่งยังกับอีหล้าจะเอาผัว : ตื่นเต้นทำอะไรไม่ถูก อาการดีใจเหมือนลูกคนเล็กจะแต่งงาน                        

   325 เก่งก่าบ้าน ก้านกับจอง : เก่งในบ้านตนเอง พอออกนอกบ้านจ๋อย                        

    324 ตี๋ก๊องในน้ำ ไผก็บ่ได้ยิน : ตีฆ้องในน้ำใครจะได้ยิน ทำดียังไงไม่มีคนเห็น                        

   323 ปี้น้องผิดกั๋นเหมือนพร้าฟันน้ำ : พี่น้องทะเลาะกันยังไง ก็ตัดกันไม่ขาด                        

   322 ตกน้ำ หัวเปียงกั๋น : รู้เหมือนๆกัน ไม่มีใครดีกว่าใคร                        

  321 ไต่ขัวบ่ป้นเตื่อ จะไปว่าฮื้อเปิ้น : ข้ามสะพานยังไม่พ้นอย่าไปว่าคนอื่น หมายถึง อ่อนด้อยประสบการณ์แต่ชอบวิจารณ์คนอื่น                         319 หนังแห้งปะเกยปอง : เหมือนสามล้อถูกหวย                        

  318 ของบ่กิ๋นฮู้เน่า ของบ่เล่าฮู้ลืม : ต้องหมั่นทบทวนสิ่งต่าง ๆ ตลอดเวลา กันลืม                        

    317 อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วซิ้นซาก แต่ลมปากหวานหูบ่ฮู้หาย : กำอู้ของคนเฮ้านี้สำคัญตี่สุด อู้ดี บ่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังฮู้สึกดีอยู่บ่เหมือน อ้อย เมื่อกิ๋นหวานแล้วก็เหลือแต่กาก                        

   316 จับใจ๋แฮ้งบ่แน่นใจ๋ก๋า จับใจ๋ครูบา บ่ถูกใจ๋พระหน้อย : ต่างคนต่างความคิด มีมุมมองที่ต่างกัน                        

  315 ปะผ้าต้วบใกล้แจ้ง : เจอสิ่งดี ๆ เมื่อสายเกินไปเสียแล้ว                        

   314 บาปอยู่ที่คนทำกร๋รมอยู่ที่คนก่อ : ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว                          

    313 กิ๋นจิ๋นกู้คาบ ลาบกู้กำ : คนไม่ประหยัด                        

    312 หันจ้างขี้ ขี้ตวยจ้าง : คนมีน้อยชอบทำแบบคนมีมาก                        

   311 ต๊กตาเปิ้นเป็นดีใคร่หัว ต๊กตาตั๊วเป็นดีใคร่ไห้ : ทีเขาทีเรา                        

    308 อ้ายบ่อต้องน้อยเยี้ยค้นเดียว : พี่ไม่ต้องน้องทำเอง                        

   307 เผื่อน้องฮู้คิงน้ำปิงปอแห้ง : กว่าจะรู้สึกตัวว่าผู้ชายเขาหลอกก็สายไปแล้ว                        

     306 ของกินบ่ลำไข๋บ่ต้องขั๋บจ๋ำ : สิ่งใดที่ไม่ชอบไม่ต้องฝืนทำ หรือ สิ่งใดไม่ชอบไม่ต้องมีใครมาสั่ง จ้างก็ไม่ทำ                        

    305 หัวบะกุงฟ้าเต่าฝ่ามือมัด : ทำตัวใหญ่โตคับฟ้าหรือคำไทยว่า หัวไม่ชนฟ้าห่างแต่ฝ่ามือเดียว                        

  304 กิ๋นข้าวกับหยังบ่มีไผ่ตามไฟส่องต๊อง ตุ๊กบ่ได้นุ่งหย้องปี้น้องดูแควน : ไม่ได้กินข้าวใครไม่สนใจ แต่ทุกข์เพราะไม่มีข้าวของเครื่องใช้ญาติพี่น้องดูถูกเหยียดหยาม                        

 303 หมากเสียงเอาเมียงน่ำ : กินหมดเเล้วๆจะเอาอย่างอื่นมากินอีก                        

  301 มือไม่พายเอาเทัาลาน้ำ : ไม่ช่วยเเล้วเกะกะ                        

    298 เงินเปิ่นว่าเป็นเจ้า ตกใส่ป่าหญ้าก็เป็นดินเป็นทราย ตกใส่งัวควายก็เป็นลาบเป็นส้า ตกใส่นักร้องเปิ่นฮ้ : เงินคือพระเจ้าสามารถบันดาลซื้อสิ่งของต่างๆได้เกือบหมด(เฉพาะคนที่ถือเงินเป็นเพียงวัตถุที่มีค่าราคา)                          

   297 ขว้างใส่หิน หินอ้า ขว้างใส่หญ้า หญ้าต๋าย : นี่แหละคือ อำนาจเงินตรา สามารถบันดาลให้ได้ทุกอย่าง                        

  296 ของบ่กิ๋นมันก็เน่า เรื่องบ่เล่ามันก็ลืม : สิ่งของที่เราสามารถกินได้ถ้าเก็บไว้นานๆไม่รักษาจะกลายเป็นของเสีย เรื่องอะไรก็แล้วแต่ถ้าเราเก็บไว้กับตัวเองสักวันหนึ่งเราอาจจะลืมได้                        

 294 หวังน้ำบ่อหน้า น้ำฟ้าบ่มาฮอม : ตั้งความหวังกับสิ่งที่ยังไม่มาถึง สุดท้ายไม่เป็นอย่างที่หวังไว้                        

  293 น้ำลึกหยั่งใด้น้ำใจ๋คนหยั่งยาก : น้ำแม้ลึกเท่าใดก็สามารถวัดได้แต่น้ำใจคนนั้นมิอาจวัดได้คือไม่สามารถรู้ใจคนอื่นได้                         292 ตูบหน้อยยังฮู้ว่ามีผี คนงามคนดีไผว่าบ่มีเจ้า : กระท่อมเล็ก(ศาลพระภูมิ)ยังมีเจ้าที่อยู่อาศัย คนสวยก็ย่อมมีเจ้าของแล้ว                         291 ฝนบ๊ะตกซ้ำจะเอาน้ำไหนมาท่วม : คนเราถ้าทำอะไรอยากไม่มีความพยายามทำหลายๆครั้งจะสำเร็จได้อย่างไร                        

     290 บ๊ะตันนั่งจะไปฟั๊งเหยียดแข้ง : คนเรายังไม่ได้นั่งแล้วรีบเหยียดขามันก็จะหกล้มเสียก่อน สุภาษิตว่า คนเราทำอะไรยังไม่ทันสำเร็จแล้วคุยโวเสียก่อน เช่นยังไม่ได้สอบเข้ามหาวิทยาลัยเลยคุยว่าจะซื้อรถ จะอยู่หอ ใว้จืบสาว                        

   289 ฮ่อมหนู หนูไต่ ฮ่อมไหน่ ไหน่เตียว : ทางหากินของใครก็ของมัน                        

   278 หนานตั๋นมาก่อน หนานปัญญามาเมื่อลูน : คนเราไม่มีใครฉลาดก่อน ต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ                        

   277 บุบหัวฟากสนั่นหัวฝา บุบหัวหมาหื้อผ่อหน้าเจ้า : จะทำอะไรให้ระวังจะกระทบกระทั่งถึงผู้อื่นด้วย หรือถ้าใครรู้มากกว่านี้โปรดเพิ่มเติมได้ครับ                        

    274 จอกปิ๊กใหนป้อ จ้อว้อใหนก่ควัก : คนที่รวยก็ยิ่งรวย คนที่จนก็ยิ่งจน                        

   273 เปิ้งปี่ก็เจ็บต้อง เปิ้งน้องก็เจ็บใจ : เพิ่งพี่น้องหรือคนอื่น อาจจะไม่สบายใจเท่าพึ่งตนเอง                        

   272 คนฮักเต้าผืนหนัง คนจังเต้าผืนเสื่อ : คนที่รักเรามีไม่มาก แต่คนที่รังเกียจเรามีมากกว่า ดังนั้นถ้าจะทำอะไรแล้ว อย่าทำเกินหน้าตัวเอง เดี๋ยวจะมีคนรังเกียจมากขึ้นอีก                        

   270 คนตุกบ่มี เศรษฐีบ่เกิด : ผู้ที่รำรวยก็เริมจากการอยากจนก่อน                        

    268 ตกต่าเปิ้นเป๋นดีไค่หัว ตกต่าตั๋วเป๋นดีไค่ไห้ : เรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับคนอื่นน่าหัวเราะ พอถึงคราวตัวเองอยากจะร้องไห้                        

    267 ยะหื้อเปิ้นฮักยากนักจักหวัง ยะหื้อเปิ้นจังกำเดียวก่อได้ : ทำให้คนอื่นรักเรายากนัก ทำให้คนอื่นชังแป๊บเดียวก็ได้                        

   264 บ่ตันนั่ง ฟั่งเหยียดแข้ง (ระวังจะโก่น) : ยังบ่มีหยังเตี้ยแต่กึดไปไก๋กว่าตี๊มีอยู่ (ยังไม่มีอะไรแต่คิดไปไกลเกินตัว                        

    263 ปี้จายกับน้องเมีย เหมือนต๋าเพี้ยกับแมงเพิ้ง : พี่เขยกับน้องภรรยาถ้ามีอายุไม่ห่างกันเท่าใหร่อาจจะทำให้ทั้งสองฝ่ายอาจมีใจให้กันได้เวลามองกันทุกวัน                        

  262 จ๋าเหลือ , จ๋าเหลอ (คำยอง) : ไม่เชื่อฟัง เขาว่าอย่างหนึ่งก็ไปทำอีกอย่างหนึ่ง                        

   261 ขวาก : น. นกแขวก น. ไม้หรือเหล็กแหลม สำหรับปักเพื่อดักสัตว์                        

  260 ขวั้น : น. ขั้ว ส่วนที่ต่อของผลไม้                          

  259 ขวัก ๆ จีๆ : ก. คุ้ยเขี่ย ทำสิ่งที่สงบแล้วให้วุ่นวายอีก                        

   258 ขนคิงลุก : ก. ขนตัวลุกขนพอง                        

   257 ขะหนาน : น. ทิด คำเรียกผู้อุปสมบทแต่ลาสิกขาแล้ว หนาน ก็ว่า                        

    256 ขี้เกี้ยจมักขม ต๋าป๋มมักส้ม ไข้บ่หล้มมักต๋ำเตา คนบ่เลากิ๋นจิ๊ : คนแสนงอนชอบรสขม คนตาโปนมักรสเปรี้ยว คนที่ไข้นิด ๆ หน่อย ๆ นั้นชอบยำเตา (ตะใคร่น้ำชนิดหนึ่งที่ออกในนา คนภาคเหนือเรานำมาปรุงเป็นอาหาร) คนรูปร่างขี้เหร่ นั้นเป็นคนตระหนี่                          

    255 ไก่งามกับขน คนงานกับแต่ง ถ้าปากมันแหว่ง แต่งอย่างใดก็ตึงบ่งาม : ไก่งามเพราะขน คนจะสวยงามก็เพราะแต่งตัว แต่ถ้าหากว่าคน ๆ นั้น เป็นคนพิการ ปากแหว่ง ถึงจะแต่งให้สวยอย่างไรก็ยังไม่น่าดูอยู่นั่นเอง                        

    254 กำจ่มกำด่านั้นเป๋น กำดี ถ้าฟังบ่ถี่มันตึงบ่ม่วนหู : คำสั่งสอนของคนแก่นั้นย่อมจะเป็นคำดี ถ้าหากว่าฟังแล้วไม่ไตร่ตรองก็ย่อมจะ ไม่ชอบถ้า หากว่าไตร่ตรองแล้วก็จะรู้ว่านั้นคือ คำสั่งสอนที่แนะนำให้ประพฤติดี                          

    253 เก้าเหลี้ยมสิบเหลี้ยม บ่เต้าเหลี้ยมใบคา เก้าหนาสิบหนา บ่เต้าหนาความรู้ : เก้าแหลมสิบแหลมยังไม่แหลมเท่ายอดหญ้าคา เก้าหนาสิบหนาไม่เท่ากับความรู้                        

   251 กำบ่ดีบ่ควรเอามาเล่า กำป๋างเก่าบ่ดีเอามายาย บ่ใจ้ท่า ควายตึงบ่ลง : คำที่ไม่ดีก็ไม่สมควรที่จะเอามาพูดให้ใคฟัง คำเก่า ๆ ก็ไม่ควรนำมาขยาย หากว่าไม่ใช ่ท่าน้ำ ควายก็ไม่ลงไปเล่นน้ำ                          

     250 กิ๋นตานหยาดน้ำ ทำบุญหลวงหลาย จักได้สบาย เกิดสุขปายหน้า : ทำบุญไว้มาก ๆ ย่อมจะได้รับผลบุญตอบสนองในภาวะชาติหน้า                         249 กิ๋นได้เอาไว้ในไห กิ๋นบ่ได้เอาไว้ในใจ๋ : ของที่รับประทานได้เอาเก็บไว้ในไห ของที่รับประทานไม่ได้ให้เก็บเอาไว้ในใจ หมายความว่า ของที่ควรจะเป็นอาหารนั้นควรเก็บเาอไว้ในไห คือเก็บเอาไว้รับประทาน ส่วนของที่ รับประทาน ไม่ได้ ซึ่งเป็นคำพูดยกย่อง ติฉินนินทานั้น ควรจะเก็บเอาไว้ในใจ                          

     248 ก๋ำขี้ดีกว่าก๋ำตด : หมายความว่าโอกาสที่มาถึงนั้น แม้ว่าจะได้เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ต้องคว้าเอาไว้ก่อน อย่าไปมัวรอ ของที่คิดว่าจะมีค่ามากกว่าทีหลัง เข้าทำนองสิบเบี้ยใกล้มือต้องรีบถือเอาไว้ก่อน                          

    247 กำติเตี๋ยนสำเนียงจ่มส้าม ย่อมจะมีมากู้ทิศ : คำติเตียนนินทานั้น ย่อมจะมีมาทั่วทุกสารทิศ                        

    246 กึ๊มงึ้มดื่มใน น้ำบ่อไหลเจี้ยวปื๊น : คนที่เงียบขรึมนั้น บทจะเอาจริงก็ขึ้นมาละก็ร้ายนัก เข้าสุภาษิตที่ว่า น้ำนิ่งไหลลึก                           245 ขะหนัด : น. สับปะรด                        

 244 กิ่วปูกิ่วดอยผ่อหัน กิ๋วคนไผผ่อบ่หัน : คอดของภูเขานั้นเราสามารถมองเห็นได้ แต่บุญวาสนาของคนเรานั้นไม่มีใครมามอง                             243 กำฟู่เก๊าเอาตุมตี้ไหน เอาก๋ำใส่ไฟ ฤาไหลน้ำกว้าง : คำพูดเมื่อเริ่มแรกนั้นเอาไปทิ้งเสียที่ใหน เอาไปเผาไฟหรือเอาไปทิ้งลงน้ำเสียแล้ว คือ เป็นคน เหลาะแหละ พูดไม่อยู่กับร่องกับรอย รับปากอยู่หยก ๆ แล้วไม่ทำตามคำพูด                          

    242 แกว่งตี๋นหาหนาม : เป็นเรื่องของคนที่ชอบหาความเดือดร้อนมาสู่ตัวเอง เรื่องของคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนสักนิด แต่ก็เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย ภายหลังมาก็พาให้ได้รับความเดือดร้อน                          

     241 กิ๋นหลาย ต๋ายคนเดียว : คนหาเงินมีเพียงคนเดียว แต่คนที่อาศัยกินด้วยนั้นมีจำนวนมาก                        

    240 กำขอแปงกว่ากำซื้อ ควรจักยื่นหื้อ ควรมีไมถี คนจะยินดี เพราะขอกั๋นได้ : คำขอร้องกันนั้นมีค่ามากมายกว่าเงินทอง คนเราอยู่ด้วยกันควรจะมีไมตรีต่อกัน                        

     239 แก่นต๋าตั๋วขวักออก เอาแก๋นบ่ากอกเข้ายัด : ของตัวดี ๆ เอาออกทิ้ง กลับเองของที่เลวกว่ามาใส่แทน เป็นคำเปรียบเปรยของคนที่เห็น ของ ผู้อื่นดีกว่าของตนเองว่า นัยน์ตาของตนอยู่ดี ๆ กลับควักทิ้ง แล้วเอาเม็ดมะกอกมาใส่แทนลูกตา                       

     238 กิ๋นหื้อปอต๊อง หย้องหื้อปอตั๋ว ป้อจายใคร่หัว : รับประทานให้พอกับกระเพาะ การแต่งตัวก็ต้องแต่งให้สมกับฐานะ ผู้ชายจะหัวเราะ ก็ต้อง หัวเราะให้ดัง ๆ                          

     237 ขดถวายหงายอ้งตี๋น : ก. นั่งขัดสมาธิเพรชให้อุ้งเท้าหงายขึ้น ขดถวาย (ขดสวาย)                        

      236 ขดถวาย : ก. นั่งสมาธิ                        

      235 ขดคู้ : ก. คุดคู้ งอลง                        

      234 ขดค้าย : ก. อพยพ ขยับ กระเถิบ                        

      233 ขดขอ : ก. ขดงอเหมือนขอ ขดขององอด ก็ว่า                        

      232 ข๋ด : ก. ม้วนเป็นวง เขยิบ กระเถิบ                        

      231 ขงขวาย : ก. ใฝ่แสวงหา ขมักเขม้น สะหนงขงขวาย ก็ว่า                            

                                                                  

  "ขอปัญญา จงเกิดแด่ท่าน"                          ของดีของเราไม่ต้องสงวนลิขสิทธิ์ ใครอยากได้ก็ให้เขาไป             แต่ของไม่ดีของเราต้องสงวนไว้ ไม่ให้คนอื่นมาใช้

                                             

ทีมา                                             http://www.suthatsunday.com/forum/index.php?topic=91.0            

                     



ความคิดเห็น