นานาข้อสงสัยเรื่องอารมณ์ทางเพศ ปัญหา หญิง ๆ กับอิสลาม ปัญหาหญิง หญิง
ท่านนบี กล่าวว่า
"ผู้ใดศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันสิ้นโลก ก็จงกล่าวในสิ่งที่ดี หรือไม่ก็เงียบเสีย" [บันทึกโดย มุสลิม]
อารมณ์ทางเพศ
อัสลามุอาลัยกุม วะเราะฮฺมาตุลลอฮิ วะบะเราะฮฺกาตุฮฺ
อั้ลฮัมดุลิ้ลลาฮฺ (ขอบอกกล่าวละเอียดนิดนึง) เพื่อการเรียนรู้และการแก้ปัญหา
พอดีมีพี่คนนึงเค้ามาปรึกษา เกี่ยวกับเรื่องเพศกับความต้องการทางอารมณ์ในด้านนั้น คือพี่เค้าแยกทางกับสามีและยังไม่มีความสามารถที่แต่งงานไหม่ได้ เมื่อถึงบางช่วงเค้าเกิดอารมณ์ในด้านนั้น ขึ้นมา ซึ่งก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงสำเร็จความใคร่ของตนโดยวิธีการฉีดน้ำไปที่จุด ๆ นั้น เพื่อให้สำเร็จตามที่ต้องการ และมักจะมีมากในช่วงเวลาที่ไกล้มีรอบเดือน ฉะนั้น จึงมีคำถามว่า
1. หากมีการทำให้อสุจิ เคลื่อนออกมา โดยเจตนาและมีรอบเดือนมาพอดี นางจำเป็นต้องอาบน้ำชำระอะไรไหม หรือนางจะต้องปฎิบัตตัวอย่างไร
2. การช่วยเหลือตัวเองโดยวิธีการนั้น (ฉีดน้ำเข้าไปตรงนั้นเพื่อให้อสุจิออกมา) ถือว่า เป็นการช่วยเหลือตัวเองโดยหลักเลยไช่ไหม (หมายถึง ไม่ว่าจะวิธีการใดก็แล้วแต่ถือว่า เป็นการสำเร็จความใคร่)
3.หากนางคิดเรื่องเพศจนสิ่งนั้นออกมา แต่ไม่ได้กระทำอะไร (ไม่ได้สำเร็จความใคร่) จัดว่าเป็นการสำเร็จความใคร่ด้วยไหม และนางต้องทำอย่างไรบ้าง
4.หากในระหว่างมีรอบเดือน นางได้กระทำให้มีอสุจิออกมา อาจจะช่วยเหลือตัวเองหรือวิธีการอื่น ๆ ของนาง (ตามหลักศาสนาสามารถทำได้ไหม)
5.ภาคผลที่นางได้กระทำ (ความผิดของนาง) และบาปในแต่ละขั้นว่าอย่างไร และนางจะต้องทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดอารมณ์อย่างงี้มากอย่างที่เป็นอยู่
6. ขอตัวบทและหลักฐาน ในเรื่องนี้และแนวทางแก้ไข
อันนี้ ขอทำความเข้าใจเพิ่มเติม
1. ผู้หญิงมีอสุจิเหมือนกับผู้ชายใหม หรือว่าสิ่งที่ออกมานั้น ไม่เหมือนกันแต่เรียกเหมือนกัน
2. เมื่อมีอสุจิเนื่องจากการฝันเปียกเรียกว่าอะไร และต้องทำอย่างไรหากมีการเคลื่อนออกมา
3. การร่วมเพศเมื่อมีอสุจิของทั้ง 2 ฝ่ายเคลื่อนออกมาเรียกว่าอะไร และต้องทำอย่างไร
4. การที่ผู้หญิงมีความต้องการมาก ในเรื่องนี้ ถือว่าผิดปรกติไหม
ขออัลลอฮฺ ทรงตอบแทน ทุกความดี
วัสลามุอาลัยกุม
โดย : @-@
วาอาลัยกุมมุสลาม วะเราะฮฺมาตุลลอฮ วาบารอกาตุฮฺ คุณ @-@
จากปัญหาข้างต้น มีคำตอบไว้ดังนี้
ส่วนที่ 1 ถามว่า
1. หากมีการทำให้อสุจิ เคลื่อนออกมา โดยเจตนาและมีรอบเดือนมาพอดี นางจำเป็นต้องอาบน้ำชำระอะไรไหม หรือนางจะต้องปฎิบัตตัวอย่างไร
2. การช่วยเหลือตัวเองโดยวิธีการนั้น (ฉีดน้ำเข้าไปตรงนั้นเพื่อให้อสุจิออกมา) ถือว่า เป็นการช่วยเหลือตัวเองโดยหลักเลยไช่ไหม (หมายถึง ไม่ว่าจะวิธีการใดก็แล้วแต่ถือว่า เป็นการสำเร็จความใคร่)
คำตอบ ข้อ 1และข้อ2. พิจารณาดังนี้นะ
การสำเร็จความใคร่ หมายถึง ทุกๆ วิธีที่ทำให้น้ำอสุจิออกมาโดยไม่ใช่การร่วมเพศ,และกรณีที่สตรีสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองนั้น ให้พิจารณาว่า นางหลั่งน้ำมะนีย์ (คือน้ำที่หลั่งออกมาทางอวัยวะเพศอันเนื่องจากบรรลุถึงความสุข (สูงสุด) ทางเพศ ถ้าเป็นน้ำมะนีย์ของผู้ชายเรียกว่าน้ำ "อสุจิ") หรือไม่?
หากนางสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองแล้วหลั่งน้ำมะนีย์ออกมา (จะสอดใส่หรือไม่สอดใส่ก็ตาม) เช่นนี้วาญิบจะต้องอาบน้ำยกหะดัษ แต่ถ้าไม่หลั่งน้ำมะนีย์ออกมาก็ไม่ต้องอาบน้ำยกหะดัษนะครับ. ......
.by: มุรีด ทิมาเสน
ทิมะเสน - mureed@mureed.com
ในกรณีที่นางได้สำเร็จควาใคร่แล้ว มีประจำเดือนมาพอดี ก็ให้นางอาบน้ำ ยกหะดัษใหญ่หรืออาบน้ำวาญิบ ภายหลังจากที่นางหมดประจำเดือนนั้น
ส่วนวิธีการ อาบน้ำยกหะดัษ สามารถอ่านรายละเอียดได้ดังนี้
http://www.banatulhuda.com/webboard_show.php?Key=น้ำ&Page=1&postid=544
----------------
ถามว่า
3.หากนางคิดเรื่องเพศ จนสิ่งนั้นออกมา แต่ไม่ได้กระทำอะไร (ไม่ได้สำเร็จความใคร่) จัดว่าเป็นการสำเร็จความใคร่ด้วยไหม และนางต้องทำอย่างไรบ้าง
คำตอบ
กรณีที่นางคิดเรื่องเพศ จนทำให้สิ่งนั้นออกมานั้นแต่ไม่ได้กระทำอะไรไม่ได้สำเร็จความใคร่ (สิ่งนั้น ในที่นี้ สามารถพิจารณาได้ว่า น่าจะเป็นน้ำที่ไหลออกมาซึ่งถูกเรียกว่า น้ำมะซีย์)
น้ำมะซีย์ ( ) คือน้ำ น้ำหล่อลื่นสีขาวใสจะหลั่งออกมาในขณะที่เรามีความรู้สึกทางเพศ หรือเมื่อได้รับการกระตุ้นทางเพศ ซึ่งน้ำหล่อลื่นเหล่านั้นจะหลั่งออกมา ลักษณะ ทั้งของผู้ชายและหญิงนั้น จะเป็นสีขาวใส เหนียวๆ ขณะที่หลั่งออกมาไม่มีความรู้สึก
ดังนี้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตามที่ทำให้สตรีหรือบุรุษชายได้รับการกระตุ้นทางเพศ แล้วมีน้ำมะซีย์ย์หลั่งออกมาตามลักษณะที่กล่าวข้างต้น
เช่นนี้ศาสนาระบุว่า ไม่ต้องอาบน้ำญานาบะฮฺ (หรืออาบน้ำยกหะดัษใหญ่) แต่อย่างใด เพียงแต่ให้อาบน้ำละหมาดใหม่เพียงนั้น หากเราจะละหมาด
เพราะจากท่าน มูฮัมหมัด อิบนุลฮะนะฟียะห์ รายงานว่า อาลี (อิบนิอบีตอลิบ) กล่าวว่า ฉันเป็นคนที่มีน้ำมะซีย์มาก(น้ำเมือกที่ออกจากอวัยวะเพศเมื่อทำงานหนักหรือเมื่อมีอารมณ์ทางเพศ แต่ไม่ใช่อสุจิ) และฉันก็อายที่จะถามข้อบัญญัติในเรื่องนี้จากท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ดังนั้นฉันจึงใช้อัลมิกด๊าด บินอัลอัสวัด ไปถามแทน ท่านตอบว่า (ให้ล้างอวัยวะเพศ) แล้วอาบน้ำละหมาดใหม่เท่านั้น (โดยไม่ต้องอาบน้ำยกฮะดัษใหญ่) บันทึกโดยบุคคอรี/หมวดที่4/บทที่35/ฮะดีษเลขที่ 178
สามารถอ่านรายละเอียดได้ดังนี้
http://www.banatulhuda.com/webboard_show.php?Key=น้ำมะนีย์&Page=1&postid=293
------------------
ถามว่า
4.หากในระหว่างมีรอบเดือน นางได้กระทำให้มีอสุจิออกมา อาจจะช่วยเหลือตัวเองหรือวิธีการอื่น ๆ ของนาง (ตามหลักศาสนาสามารถทำได้ไหม)
คำตอบ
คุณสามารถ อ่านรายละเอียด ของข้อห้ามเวลามีประจำเดือน ได้ด้งนี้
http://www.banatulhuda.com/webboard_show.php?Key=ประจำเดือน&Page=1&postid=113
เมื่อคุณอ่านแล้ว คุณคงจะได้รับคำตอบได้ว่า ได้หรือไม่ได้
--------------------------
ถามว่า
5.ภาคผลที่นางได้กระทำ (ความผิดของนาง) และบาปในแต่ละขั้นว่าอย่างไร และนางจะต้องทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดอารมณ์อย่างงี้มากอย่างที่เป็นอยู่
6. ขอตัวบทและหลักฐาน ในเรื่องนี้และแนวทางแก้ไข
คำตอบ ข้อ 5 และข้อ6. พิจารณาได้จากนี้
คุณสามารถ อ่านรายละเอียด ของฮูก่มในเรื่องข้างต้น และวิธีการเพื่อไม่ให้เกิดอารมณ์แบบนี้ได้ ดังนี้
อยากรู้ว่าการสำเร็ความใคร่ในอิสลามเป็นสิ่งต้องห้ามในอิสลามหรือไม่
http://mureed.com/mr_talk/b_sele.asp
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คุณ @-@ จะรับทราบและนำไปปฏิบัติอย่างถูกต้องตามหลักการที่ถูกนำเสนอไว้ อินชาอัลลอฮ
วัสลามุอาลัยกุม วาเราะมาตุลลอฮ วาบารอกาตุฮ
----------------------------------
โดย : ฆุรอบาอฺ
ในส่วนที่ 2
ถามว่า
1.ผู้หญิงมีอสุจิเหมือนกับผู้ชายใหม หรือว่าสิ่งที่ออกมานั้น ไม่เหมือนกันแต่เรียกเหมือนกัน
คำตอบ คุณสามารถ อ่านรายละเอียดได้ดังนี้
http://www.banatulhuda.com/webboard_show.php?Key=น้ำมะนีย์&Page=1&postid=293
-------------------------
ถามว่า
2. เมื่อมีอสุจิเนื่องจากการฝันเปียกเรียกว่าอะไร และต้องทำอย่างไรหากมีการเคลื่อนออกมา
3. การร่วมเพศเมื่อมีอสุจิของทั้ง 2 ฝ่ายเคลื่อนออกมาเรียกว่าอะไร และต้องทำอย่างไร
คำตอบ ข้อ 5 และข้อ6. พิจารณาได้จากนี้
กรณีที่เราฝันเปียกหรือกรณีที่มีการร่วมหลับนอนระหว่างสามีภรรยา และมีอสุจิเคลื่อนหรือน้ำมะนีย์เคลื่อน รายละเอียดมีดังนี้
น้ำมะนีย์ คือ น้ำที่ออกภายหลังจากที่เราได้รับการกระตุ้นทางเพศ แล้วได้บรรลุถึงจุดสุดยอด ซึ่งจะเรียกว่า น้ำอสุจิ หรือด้วยวิธีการหนึ่งการใด เช่น กรณีที่เราฝันเปียกแล้วมีน้ำดังกล่าวออกมาที่มีลักษณะดังนี้ สำหรับ ชายจะเป็นสีขาวขุ่น ส่วนหญิง จะเป็นสีเหลืองใส
ดังนี้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตามที่ทำให้สตรีหรือบุรุษชายก็ตาม ได้บรรลุถึงจุดสุดยอดแล้วมีน้ำมะนีย์หลั่งออกมาตามลักษณะที่กล่าวข้างต้น หรือเรียกว่า น้ำอสุจินั้น
เช่นนี้ศาสนาระบุว่าให้อาบน้ำญานาบะฮฺ (หรืออาบน้ำยกหะดัษใหญ่)
เพราะท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า " " ความว่า "ให้อาบน้ำญะนาบะฮฺเมื่อเห็นน้ำมะนีย์" (บันทึกโดยบุคอรีย์)
ซึ่งเมื่ออาบน้ำญะนาบะฮฺแล้วจึงจะอนุญาตให้นมาซได้ แต่ถ้ายังไม่น้ำญะนาบะฮฺก็ยังไม่อนุญาตให้นมาซ
-------------------------
ถามว่า
4.การที่ผู้หญิงมีความต้องการมาก ในเรื่องนี้ ถือว่าผิดปรกติไหม
คำตอบ หากถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาหรอกนะ หากผู้หญิงนั้น มีความต้องการมากบ้าง ในบ้างช่วง บางเวลา โดยเฉพาะ หญิงที่ประจำเดือนกำลังจะมาหรือ มีประจำเดือนแล้ว เพราะหลักการแพทย์ ว่าอย่างนั้น รายละเอียด คงไม่เหมาะนักหากจะมาอธิบายเป็นขั้นเป็นตอน...
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า สาเหตุสำคัญ ทีทำให้หญิงหรือชายใดก็ตามนั้น มีอารมณ์หรืออะไรอื่นทำนองนี้นั้นมากกว่าปกติทั่วไปนั้น หรือบ่อยๆนั้น
สาเหตุหลักน่าจะขึ้นอยู่กับ สภาพแวดล้อมที่มันเอื้ออำนวยต่อการกระตุ้นทางเพศดังกล่าว ว่าเราไปยุ่งเกี่ยวและคลุกคลีมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง เช่น การคลุกคลีและหมกมุ่นกับการดูหนัง ดูละคร หรือการฟังเพลงนักร้อง หนุ่มๆสาวๆ หรือการคลุกคลีกับเพศตรงข้าม โดยใช่เหตุและมีการพูดคุยกัน ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์หรือทางการคบหาดูใจหรือที่เรียกว่า แฟน และการไปไหนสองต่อสอง หรืออื่นๆทำนองนี้ เป็นต้น
แต่หากเค้าคนนั้น มีความยำเกรง ตักวา และเค้านั้น ลดสายตา จากสิ่งที่ยั่วยุต่างๆที่เกิดขึ้นรอบตัวแล้ว อารมณ์ข้างต้น คงจะลดได้ ไม่มากก็น้อยหล่ะ เพราะอัลลอฮซุบฮานาฮุวา ตะอาลา ตรัสไว้ใน ซุเราะห์ An-Noor - อายะฮที่ 30 ว่า Thai: [24:30]
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) แก่บรรดามุอฺมิน ให้พวกเขาลดสายตาของพวกเขาลงต่ำ และให้พวกเขารักษาทวารของพวกเขา นั่นเป็นการบริสุทธิ์ยิ่งแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเขากระทำ
แต่อิสลามได้ให้ทางออกแก่ผู้ที่มีอารมณ์ข้างต้นที่มากกว่าปกติ หรือปกติไว้ดังนี้
อันดับแรกหากมีความต้องการทางเพศศาสนาส่งเสริมให้แต่งงาน หากไม่มีความสามารถจะแต่งงานได้ เช่นนั้นก็ส่งเสริมให้ถือศีลอด เพื่อระงับอารมณ์ทางเพศแทน
ท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า “โอ้บรรดาวัยรุ่นเอ๋ย บุคคลใดในหมู่พวกท่านมีความสามารถจะแต่งงาน เช่นนั้นเขาก็จงแต่งงานเถิด เพราะการแต่งงานนั้นทำให้ลดสายตาลงต่ำ และทำให้อวัยวะเพศเกิดความบริสุทธิ์ (จากการทำซินา) ส่วนบุคคลใดที่ไม่สามารถจะแต่งงานได้ (ด้วยสาเหตุใดก็ตาม) เช่นนั้นการถือศีลอดจำเป็นสำหรับเขา ทั้งนี้ (การถือศีลอด) จะป้องกันเขา (มิให้ถลำสู่การทำซินา)”
หากถือศีลอดแล้วยังไม่สามารถระงับอารมณ์ทางเพศของตนเองได้ ต่อมาศาสนาก็ส่งเสริมให้แต่งงาน (นิกาหฺ) หากยังไม่ได้แต่งงาน (จะด้วยด้วยเหตุผลใดก็ตาม) เช่นนี้แหละจึงค่อยมาสู่ประเด็นที่ว่าการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง ศาสนาอนุญาตให้กระทำหรือไม่? ซึ่งผู้เขียนได้อธิบายมาแล้วก่อนหน้านี้.
http://mureed.com/mr_talk/b_sele.asp
by: มุรีด ทิมะเสน - mureed@mureed.com
วัสลามุอาลัยกุม วาเราะมาตุลลอฮ วาบารอกาตุฮ
โดย : ฆุรอบาอฺ Jul 23, 2009 124.120.154.149
ญาซากัลลอฮฺสำหรับข้อมูลดีๆ
โดย : life Jul
ญาซากัลลอฮฺสำหรับข้อมูลดีๆ
โดย : life Jul
ข้อมูล ทั้งหมด มีที่มาจาก
เว็บบะนาตุลหุดา:อารมณ์ทางเพศ
http://www.banatulhuda.com/webboard_show.php?Key=%E0%BE%C8&Page=1&postid=805
credit
http://g2.buildboard.com/viewtopic.php/2/4634/1875/0/
นำเสนอโดย ข่าวมุสลิมเชียงใหม่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
โปรดใช้วิจารณญานในการแสดงความคิดเห็น