อีกหนึ่งทรรศนะการอ่านอัลกุรอ่านที่กุบูรไม่ใช่บิดอะฮ์

 การอ่านอัลกุรอ่านที่กุบูรไม่ใช่บิดอะฮ์

       การอ่านอัลกุรอ่านที่กุบูรนั้น เป็นประเด็นปัญหาข้อปลีกย่อย ที่มีการโต้เถียง ขัดแย้งกันมาก จนกระทั้งบางครั้ง นำไปสู่การทะเลาะและตัดขาญาติมิตรกัน - วัลอิยาซุบิลลาห์ - การที่กลุ่มหนึ่งเชื่อว่าทัศนะของตนเท่านั้นที่ถูกต้อง และทำการตัดสินชี้ขาดหุกุ่มบรรดามุสลิมมีนที่มีทัศนะต่างกับตนว่าทำบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลงนั้น ย่อมไม่มีแบบฉบับมากจากอุลามาอ์สะละฟุศศอลิหฺและอุลามาอ์คอลัฟผู้มีความเชี่ยวชาญปราชเปรื่อง

      อนึ่ง บรรดาปวงปราชน์แห่งโลกอิสลามมีมติเห็นพร้องกันว่า การอ่านอัลกุรอานที่กุบูรนั้น ไม่ใช่เป็นสิ่งที่หะรอม ผู้ที่กระทำก็ไม่ได้เป็นการกระทำบาป บรรดาอุลามาอ์ส่วนมากจากมัซฮับหะนะฟียะฮ์ ชาฟิอียะฮ์ และหะนาบิละฮ์ มีทัศนะว่า สุนัตให้ทำการอ่านอัลกุรอานที่กุบูร, สำหรับ มัซฮับมาลิกียะฮ์นั้น มีทัศนะว่า การอ่านอัลกุรอานที่กุบูรเป็นเพียงมักโระฮ์ แต่บรรดาอุลามาอ์มัซฮับมาลิกียะฮ์ยุคหลังนั้น มีทัศนะว่า การอ่านอัลกุรอานที่กุบูร การซิกิร และฮะดียะฮ์ผลบุญให้แก่มัยยิดนั้น ถือว่าไม่เป็นไร และผู้ที่กระทำดังกล่าว ย่อมได้รับผลตอบแทนด้วย อินชาอัลเลาะฮ์

      การอ่านอัลกุรอ่านที่กุบูรนั้น ไม่มีหลักฐานห้าม ยิ่งไปกว่านั้น การอ่านอัลกุรอานที่กุบูรเป็นสิ่งที่ถูกส่งเสริมให้กระทำ, ดังนั้น บรรดาหลักฐานจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์มากมายที่บอกไว้อย่างชัดเจน ถึงความประเสริฐของการอ่านอัลกุรอาน โดยที่บรรดาหลักฐานต่างเหล่านั้น ได้ระบุความหมายอย่างครอบคลุมหรือแบบกว้างๆ โดยที่ไม่ได้เจาะจงหรือจำกัดเวลาและสถานที่ นอกจากสถานที่ไม่เหมาะสม เช่น ห้องน้ำ สถานที่เสี่ยงกับนะยิส เป็นต้น

       ดังนั้น การอ่านอัลกุรอาน ไม่ว่าจะอ่านในบ้าน หรือที่กุบูร ย่อมถูกผนวกอยู่ในหลักฐานที่บ่งชี้แบบครอบคลุมหรือแบบกว้างๆ โดยพิจารณาว่า การอ่านอัลกุรอานที่บ้าน หรือ ที่กุบูร ก็คือการอ่านอัลกุรอานเหมือนกัน และสอดคล้องกับหลักฐานที่ส่งเสริมให้อ่านอัลกุรอาน ยิ่งไปกว่านั้น ก็ไม่มีหลักฐานห้ามที่จะมาคัดค้านหลักฐานที่อยู่ในรูปแบบมูลรวมหรือรูปแบบกว้างๆ นี้เลย ดังนั้น การอ่านอัลกุรอานในสถานที่หนึ่งสถานที่ใดนั้น ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน หรือ ที่กุบูร ก็ย่อมไม่มีผลใดในการห้ามให้อ่านอัลกุรอาน แถมยังเป็นสุนัตอีกด้วย

       สำหรับผู้ที่คัดค้านเรื่องนี้ เขาจะต้องยกหลักฐานห้ามอ่านอัลกุรอานที่กุบูรมาอ้างอิง เพื่อมาหักล้างหลักฐานที่ครอบคลุมที่ส่งเสริมให้อ่านอัลกุรอาน หรือยกหลักฐานห้ามอ่านอัลกุรอานที่กุบูรมาจำกัดหลักฐานแบบกว้างๆ ที่ส่งเสริมให้อ่านอัลกุรอาน หรือให้นิ่งเสีย ซึ่งหากไม่เป็นเช่นนั้น เขาย่อมกลายเป็นผู้ที่ทำบิดอะฮ์ เนื่องจากตัดสินเกี่ยวกับเรื่องของศาสนา ด้วยใช้สติปัญญาและอารมณ์ของเขาเท่านั้น ดังนั้น แนวทางของผู้มีวิชาความรู้นั้น จะต้องใช้วิธีการหักล้างหลักฐานด้วยหลักฐาน สำหรับการหักล้างหลักฐาน ด้วยการอ้างว่าไม่รู้ไม่มีหลักฐานให้กระทำ หรือคาดการเอาว่ามันคงทำไม่ได้นั้น ย่อมเป็นแนวทางของผู้ที่ไม่ใช่นักวิชาการ

        แต่ในทัศนะของเรานั้น มีหลักฐานที่มาเจาะจงให้อ่านอัลกุรอานที่กุบูรได้ เนื่องจากได้มีรายงานจากอิมามอะหฺมัด บิน หัมบัล ว่า ท่านได้เคยกล่าวว่า การอ่านอัลกุรอานที่กุบูรนั้น เป็นบิดอะฮ์ แต่หลังจากนั้น ท่านอิมามอะหฺมัด ก็ยกเลิกทัศนะดังกล่าวด้วยตัวท่านเอง มีอุลามาอ์กลุ่มหนึ่งจากบรรดาสานุศิษย์ของอิมามอะหฺมัดได้รายงานว่า

    "แท้จริง ท่านอะหฺมัด ได้ห้ามชายตาบอด ทำการอ่านอัลกุรอานที่กุบูร โดยที่ท่านอะหฺมัดกล่าวแก่เขาว่า การอ่านอัลกุรอานที่กุบูรนั้นเป็นบิดอะฮ์ ดังนั้น มุหัมมัด บิน กุดามะฮ์ อัลเญาฮะรีย์ กล่าวกับท่านอะหฺมัดว่า โอ้ อบูอับดุลเลาะฮ์ (คือท่านอิมามอะหฺมัด) ท่านจะว่าอย่างไรเกี่ยวกับท่านมุบัชชิร อัลหะละบีย์ ? ท่านอะหฺมัดกล่าวว่า เขานั้นเชื่อถือได้ มุหัมมัด บิน กุดามะฮ์กล่าวว่า ท่านมุบัชชิรได้เล่าให้ฉันฟังโดยเอามา จากท่านอับดุรเราะห์มาน บิน อัลอะลาอ์ บิน อัลลัจลาจญฺ จากบิดาของเขาว่า แท้จริง บิดาของเขาได้ทำการสั่งเสียว่า เมื่อเขาได้ถูกฝังไปแล้ว ก็ให้ทำการอ่านช่วงแรกของซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์ และช่วงท้ายของมันที่สุสารของเขา และบิดาของเขากล่าวว่า ฉันได้ยินท่านอิบนุอุมัรได้ทำการสั่งเสียเรื่องดังกล่าวไว้ ดังนั้น ท่านอิมามอะหฺมัดจึงกล่าวแก่เขาว่า ท่านจงกลับไปบอกชาย(ตาบอด)ผู้นั้น ให้ทำการอ่านอัลกุรอาน(ที่กุบูร)ได้"

      เกี่ยวกับสายรายงานถึงท่านอิบนุอุมัรนี้ มีข้อสังเกตุอยู่ 2 ประการ

      ประการแรก คือสายรายงานนี้ ได้รับการยืนยันจากท่านอะหฺมัด โดยที่ได้รายงานโดยจำนวนหนึ่งจากบรรดาสานุศิษย์ของท่าน แต่ท่านอัลบานีย์ และผู้ยึดติดเขา ได้ทำการตำหนิสายรายงานนี้ โดยพิจารณาเพียงแค่สายรายงานเดียวเท่านั้น " คือท่านอัลบานีย์ได้ทำการถ่ายทอดสายรายงานจากหนังสือ อัร-รั๊วะหฺของท่านอิบนุกอยยิม โดยการรายงานของ ท่านอัลค๊อลลาล จาก อัลหุซัยน์ บิน อะหฺมัดอัลวัรร๊อก เล่าจาก อลี บิน มูซา อัลหัดดาด และท่านอัลบานีย์กล่าวว่า ท่านอัลหุซัยน์ บิน อะหฺมัด อัลวัรร๊อก และท่านอลี บิน มูซา อัลหัดดาดนั้น ไม่เป็นที่รู้จักสถานะภาพของเขา" สรุปจาก หนังสืออะหฺกาม อัลญะนาอิซฺ ของท่านอัลบานีย์ หน้า 243

เราขอกล่าวว่า ความจริงคำพูดของท่านอัลบานีย์ ต่อท่านอะหฺหมัด มีความผิดพลาดถึง 2 ประการ

      1. คือท่าน อัลค๊อลลาล ได้รายงานไว้ในหนังสือ อัลอัมรฺ บิลมะอฺรูฟ วันนะฮ์ อะนิลมุงกัร หน้า 125 - 126 จากท่านอะหฺมัด อีกสายรายงานอื่นอีก ซึ่งท่าน อัลค๊อลลาล กล่าวว่า

       "ท่านอบูบักร บิน ซ่อดะเกาะฮ์ได้บอกให้เราทราบ เขากล่าวว่า ฉันได้ยินอุษมาน บิน อะหฺมัด บิน อิบรอฮีม อัลเมาซิลีย์ กล่าวว่า อบูอับดุลเลาะฮ์ คือ ท่านอะห์มัด บิน หัมบัลพร้อมด้วยท่านมุฮัมมัด บิน กุดามะฮ์ แล้วเขาก็ได้ไปร่วมงานฝังศพของชายคนหนึ่ง .....(กล่าวรายงานเหมือนกับที่กล่าวมาแล้ว)"

        เราขอกล่าวว่า ท่านอบูบักร บิน ซ่อดะเกาะฮ์นี้ คือ อะหฺมัด บิน มุหัมมัด บิน อับดิลลาฮ์ บิน ซ่อดะเกาะฮ์ เขาเป็นหนักจดจำหะดิษ ซึ่งท่าน อัดดาร่อกุตนีย์ กล่าวว่า "เขานั้น เชื่อถือได้ เชื่อถือได้" ดู หนังสือ ตารีค บุฆดาด เล่ม 5 หน้า 40

      2.บรรดาสานุศิษย์ของท่าน อิมามอะหฺมัด บิน หัมบัล ที่ได้ทำการบันทึกมัซฮับของท่านอะหฺมัดนั้น เป็นผู้ที่รอบรู้ยิ่ง ต่อบรรดาสายรายงานต่างๆ เหล่านี้ และทั้งหมดก็ได้ทำการถ่ายทอดจากท่านอะหฺมัดว่า อนุญาติให้ทำการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรได้

ประการที่สอง สายงานดังกล่าวต่อเนื่องกันจนถึงท่านอิบนุอุมัรซึ่งเป็นนักปราชญ์ของบรรดาซอฮาบะฮ์ ท่าน อัลฮัยษะมีย์ ได้กล่าวไว้ใน หนังสือ มัจญฺมะอ์ อัซซะวาอิดว่า

     " รายงานโดยท่านอัฏฏ๊อบรอนีย์ ไว้ในหนังสือ มั๊วะญัม อัลกะบีร และบรรดานักรายงานนั้น เชื่อถือได้ทั้งสิ้น" ดู เล่ม 3 หน้า 44

      ท่านอิมามอันนะวาวีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัลอัซการ ของท่านว่า

"เราได้รายงาน ไว้ใน สุนันอัลบัยฮะกีย์ ด้วยสายรายงานที่หะซัน ว่า แท้จริง ท่านอิบนุอุมัรนั้น ชอบที่จะให้อ่านอัลกุรอานในช่วงแรกของซูเราะฮ์อัลบะกอเราะฮ์ และช่วยท้ายของมันที่กุบูรหลังจากเสร็จสิ้นแล้ว" ดู อัลฟุตูฮาด อัรร๊อบบานียะฮ์ อะลา อัลอัซการอันนะวะวียะฮ์ เล่ม 4 หน้า 194

      สำหรับ ท่าน มุบัชชิรนั้น เชื่อถือได้(ษิเกาะฮ์) และท่านอับดุรเราะหฺมาน บิน อะลาอ์ บิน อัลลัจลาจญฺนั้น ท่านอิบนุหิบบาน ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัษษิกอต(บรรดานักรายงานที่เชื่อถือได้) ดู เล่ม 7 หน้า 90

นักปราชญ์หะดิษชั้นแนวหน้า คือ ท่านยะหฺยา บิน มะอีน ก็มีทัศนะว่า อนุญาติให้อ่านอัลกุรอานที่กุบูรได้ ซึ่งก็เป็นแนวทางเดียวกับมัซฮับอิมามอะหฺมัด และด้วยหลักฐานเดียวกันนี้

ท่าน อับบาส อัดดูรีย์ กล่าวว่า

      "ฉันได้ถาม ท่านยะหฺยา บิน มะอีน เกี่ยวกับเรื่องการอ่านอัลกุรอานที่กุบูร ท่านยะหฺยากล่าวว่า ได้บอกเล่าให้เราทราบโดย ท่านมุบัชชิร บิน อิสมาอีล อัลหะละบีย์ จากอับดุรเราะห์มาน บิน อัลอะลาอ์ บิน อัลลัจลาจญฺ จากบิดาของเขา ว่าแท้จริง บิดาของเขาได้กล่าว กับบุตรของเขาว่า เมื่อพวกท่านได้นำฉันเข้าไปในกุบูร และพวกท่านก็ได้วางฉันลงไปในหลุม 

       ดังนั้น พวกท่านจงกล่าวว่า ด้วยพระนามของอัลเลาะฮ์ และบนแนวทางของร่อซูลุลเลาะฮ์ และพวกท่านจงปาดดินให้เรียบ แล้วพวกท่านจงอ่าน ช่วงแรกของซูเราะฮ์อัลบะกอเราะฮ์และช่วงท้ายของมันที่กุบูรช่วงศรีษะของฉัน เพราะแท้จริงฉันเห็นท่านอิบนุอุมัรรักชอบให้กระทำสั่งดังกล่าว" ดู ตารีค ยะหฺยา บิน มะอีน เล่ม 2 หน้า 415 

รายงานจากท่านอิบนุอับบาส (ร.ฏ.) ท่านกล่าวว่า

      "ท่านนบี(ซ.ล.) ได้เดินผ่านสองกุบูร แล้วท่านนบี(ซ.ล.)กล่าวว่า ทั้งสองกำลังถูกทำโทษ โดยที่ทั้งสองไม่ได้ถูกลงโทษเพราะบาปใหญ่ จากนั้น ท่านนบีกล่าวว่า แต่ว่าคนหนึ่งจากทั้งสองนั้น เป็นผู้ที่ชอบให้ร้ายคน และสำหรับอีกคนหนึ่ง เขาเป็นคนที่ปัสสาวะไม่สุด , ท่านอิบนุอับบาสกล่าวว่า หลังจากนั้น ท่านนบี(ซ.ล.)ได้เอากิ่งอินทผาลัมสดมา แล้วก็ฉีกออกเป็นสองส่วน จากนั้น ท่านนบี(ซ.ล.)ก็ปักมันทั้งสองลงบนกุบูร แล้วท่านนบีกล่าวว่า บางครั้งมันจะทำให้บรรเทา(จากการลงโทษ)จากทั้งสอง ตราบใดที่มันทั้งสอง(กิ่งอินทผาลัม)ยังไม่แห้ง" ดู ซอฮิหฺ อัลบุคอรีย์ หะดิษที่ 218 , ซอฮิหฺมุสลิม หะดิษที่ 292 , มุสนัด อิมามอะหฺมัด เล่ม 1 หน้า 225

      ท่านอิมาม อัลค๊อฏฏอบีย์ กล่าวว่า "ในหะดิษนี้ ชี้ถึง การอนุญาติให้อ่านอัลกุรอานที่กุบูรได้ เนื่องจากว่า เมื่อการบรรเทาการลงโทษได้ถูกหวังจากมัยยิด ด้วยการตัสบีห์ของต้นไม้(อินทผาลัม) ดังนั้น การอ่านอัลกุรอานย่อมมีความหวังและมีศิริมงคลยิ่งใหญ่กว่า"

      ท่านอิมามอันนะวาวีย์ได้กล่าวอธิบายว่า "บรรดาอุลามาอ์ถือว่าเป็นสุนัต กับการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรเนื่องสาเหตุของหะดิษนี้ เพราะว่าเมื่อการบรรเทาโทษยังมีหวังจากการตัสบีหฺของกิ่งอินทผาลัมแล้ว แน่นอนว่า การอ่านอัลกุรอานย่อมมีความหวังมากกว่า" ดู ชัรหฺ ซอฮิหฺมุสลิม เล่ม 2 หน้า 204

อิบนุ อบี ชัยบะฮ์ ได้กล่าวรายงานไว้ว่า

      "ได้เล่ากับเรา โดยหัฟซฺ บิน ฆอยยาษ จาก อัลมุญาลิด จากท่านอัชชะอฺบีย์ ท่านกล่าวว่า "บรรดาชาวอันซอร ได้ทำการอ่านอัลกุรอาน ที่มัยยิด ด้วยกับซูเราะฮ์อัลบะกอเราะฮ์ " ดู อัลมุซันนัฟ เล่ม 4 หน้า 236

และท่านค๊อลลาลได้รายงานจากสายรายงานเดียวกัน ด้วยคำว่า

      "บรรดาชาวอันซอรนั้น เมื่อมีผู้ตายคนหนึ่งของพวกเขาเสียชีวิตลง พวกเขาก็จะทำการสลับกันไปที่กุบูรของผู้นั้น โดยที่พวกเขาจะทำการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรของมัยยิดนั้น" ดู หนังสือ อัลอัมรฺ บิลมะอฺรูฟ วันนะฮ์ อะนิลมุงกัร หน้า 126

ในสายรายงานดังกล่าว มีท่าน "มุญาลิด บิน สะอีด" ซึ่งเขาผู้นี้ หะดิษดี โดยมีบรรดาสายรายงานและหะดิษมาใช้ในการสนับสนุนและมีน้ำหนัก ท่านมุสลิมได้นำเขามาเป็นผู้รายงานหะดิษไว้ในซอฮิหฺของท่านมุสลิมด้วย โดยรายงานพร้อมกับคนอื่น ไว้ใน เรื่อง ฏอล๊าก บท ผู้หญิงที่ถูกหย่าขาด ที่ไม่มีค่าเลี้ยงดูให้แก่นาง

       ดังกล่าวนี้ คือผลงานการกระทำที่ได้รายงานมาจากบรรดาซอฮาบะฮ์ โดยที่บรรดานักหะดิษได้ผ่อนปรนในการรายงานด้วยกับสายรายงานเหล่านี้ ท่าน อามิร บิน ชะรอฮีล อัชชะอฺบีย์นี้ คือเป็น ตาบีอีนชั้นแนวหน้า ผู้มีเกียรติ อีกทั้ง เป็นผู้ได้รับความเชื่อถือเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป ท่านได้พบกับบรรดาซอฮาบะฮ์ระดับอวุโสมากมาย และท่านอัลอัจญฺลีย์กล่าวว่า      "เขาได้ยินหะดิษจากบรรดาซอฮาบะฮ์ถึง 48 ท่าน" เมื่อเป็นเช่นนี้ คำกล่าวของท่านอัชชะอฺบีย์ที่ว่า "บรรดาชาวอันซอร..." ย่อมตีความได้ว่า พวกเขาคือชนส่วนมากจากบรรดาซอฮาบะฮ์และตาบิอีน - วัลลอฮุอะลัม

ท่านชัยค์ อัลอุษมานีย์ อัช-ชาฟิอีย์กล่าวว่า "บรรดาอุลามาอ์ได้ลงมติเห็นพร้องว่า การอิสติฆฟาร การขอดุอาอ์ การทำทาน การทำฮัจญฺ การปล่อยทาสนั้น เป็นผลประโยชน์แก่มัยยิด และผลบุญจะไปถึงเขา , และการอ่านอัลกุรอานที่กุบูรนั้น เป็นสุนัต" ดู เราะหฺมะตุลอุมมะฮ์ ฟี อิคติลาฟ อัลอุมมะฮ์ หน้า 92

ที่มา   www.sunnahstudent.com

ความคิดเห็น